GUNKUL ลุย 4 ธุรกิจหลักเต็มสปีด-ทุ่มงบลงทุน 7 พันล้าน ดันผลงานปีนี้ทะลุเป้าโต 20%

310

ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่าภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ  ทุกภาคส่วนขยายตัวและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องทุกปี  เห็นได้จากฐานะทางการเงิน  ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563  มีสินทรัพย์รวม จำนวน 46,032.16 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน 39,041.54 ล้านบาท   ส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ 3,425 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,222 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 10,975 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 7,195 ล้านบาท  และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่  0.39 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 0.24 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ในปี 2564 บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า รับเหมาก่อสร้าง โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ทั้งโซลาร์และพลังงานลมทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง   ขณะที่ธุรกิจงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ยังมีงานประมูลใหม่ๆ เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ จากปัจจุบันมีงาน EPC ในมือ (Backlog) ประมาณ 8,500 ล้านบาท  โดยปีนี้ตั้งเป้างาน EPC ในมือไว้ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งเป้ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20 % ซึ่งเป็นการเติบโตในธุรกิจทุกด้าน ทั้งในส่วนของธุรกิจเทรดดิ้ง และธุรกิจ EPC โดยปีนี้ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 เมกะวัตต์ ส่งผลทำให้ปี 2566 กำลังการผลิตจะเป็นไปตามเป้าหมาย 1,000 เมกะวัตต์  ภายใต้งบลงทุน (3 ปี) 2564-2566 ที่ 20,000 ล้านบาท หรือประมาณปีละ 7,000 ล้านบาท

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของกลุ่มบริษัทฯ GUNKUL จึงได้ ปรับองค์กรครั้งใหญ่ โดยแต่งตั้งทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อดูแลบริหารงานเชิงกลยุทธ์และด้านปฏิบัติการของธุรกิจต่างๆ  เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจแต่ละด้าน  แบ่งเป็น 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจพลังงานทั้งในและต่างประเทศ  ,ธุรกิจพาณิชย์ ธุรกิจรีเทล ธุรกิจแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ดิจิทัลโซลูชั่นส์ และธุรกิจการบริหารจัดการด้านพลังงาน สําหรับ Smart Community และ Smart City  ,ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระบบสายส่ง สถานีไฟฟ้าแรงสูง ก่อสร้างสถานีไฟฟ้า และ ระบบไฟฟ้าใต้ดิน ระบบไฟฟ้าเหนือดิน   และธุรกิจด้านผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า แรงดันกลาง และแรงดันสูง เพื่อรองรับการขยายตัวของผู้ใช้ไฟและการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังสนใจและอยู่ระหว่างศึกษาเกี่ยวกับพืชเศรษฐกิจ กัญชง หรือ กัญชา  เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสร้างจุดแข็งให้กลุ่มบริษัทฯ และสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันทางธุรกิจ จากข้อได้เปรียบด้วยพื้นที่กว่า 5,000 ไร่    ที่พร้อมสำหรับการพัฒนาแหล่งน้ำที่มีไว้สำหรับการเพาะปลูกรวมถึงนวัตกรรมในระบบการเกษตร โดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีต้นทุนต่ำ สำหรับใช้ในระบบควบคุมแสงและอุณหภูมิในโรงเรือนปิด ทำให้ต้นทุนในการผลิตต่ำ รวมถึงวางแผนลงทุนทำโรงสกัด CBD บริสุทธิ์ 99% ที่มีกำลังผลิต 1 ตัน ต่อวันอีกด้วย โดยวางแผนจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศต่อไป การทำงานร่วมกันในการดำเนินงานจากการจัดหาพลังงานหมุนเวียนของบริษัทสำหรับการทำสวนในโรงเรือนพร้อมที่จะเติมเชื้อเพลิง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องพร้อมให้บริการ

“ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทฯ มีการวางพื้นฐานธุรกิจแต่ละภาคส่วนได้เป็นอย่างดี และมีความชัดเจน  ขณะเดียวกันก็มองถึงธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างฐานรายได้ และกำไรให้เติบโตอย่างมีศักยภาพในระยะยาว  จึงทำให้เกิดการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยผนึกกำลังกันในแต่ละภาคธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน อันจะนำมาซึ่งการเติบโตอย่างยั่นยื่นของกลุ่มบริษัทฯ” ดร.สมบูรณ์ กล่าวในที่สุด