ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) มีรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (BIGLOT)ก้อนใหญ่ 951 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 3.96 บาท/หุ้น ให้กับกองทุนทั้งสถาบันในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนรายใหญ่ ชื่อดัง โดยแบ่งเป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศสัดส่วน 40 % ,สถาบันต่างประเทศ 50 % และนักลงทุนรายใหญ่ ชื่อดังอีกราว 10 % ประกอบกับบริษัทต้องการเพิ่มสภาพคล่อง Free float ให้เป็นไปตามเกณฑ์ของทางตลากหลักทรัพย์ ซึ่งคาดว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตามจากผลการดำเนินงานของบริษัทที่ยังเติบโตได้ในระยะยาว โดยปี 63 ทำกำไรสุทธิ 1.6 พันลบ.นิวไฮในรอบหลายปี ทำให้เตะตานักลงทุนทั้งสถาบันในประเทศและต่างประเทศที่สนใจลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสสร้างผลกำไรเติบโตในระยะยาวได้ ซึ่งล่าสุดบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 โต 15-20% ทุบสถิตินิวไฮต่อเนื่อง เนื่องจากรายได้หลักคือ ธุรกิจสายไฟฟ้า และสายเคเบิ้ล มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีไปพร้อมกับอุตสาหกรรม ซึ่งจากแผนการลงทุน 5 ปี (63-67) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมราว 2 แสนล้านบาท ขณะที่ล่าสุดตุนแบ็กล็อกกว่า 9 พันลบ. รอรับรู้ พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่เพียบ
นอกจากนี้ยังเร่งเครื่้องเพิ่มกำลังผลิตโรงงานเวียดนาม หวังใช้เป็นฐานส่งออกไปทั่วโลก ประเดิมบุกตลาดสหรัฐฯ วางงบลงทุนปีนี้ 400 ลบ.เพื่อดำเนินการปรับปรุงไลน์ผลิตและโรงงานเดิม เพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินงานของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น และยังไม่มีแผนลงทุนใหม่อื่นๆ เพิ่มหลังลงทุนโรงงานในเวียดนามปี63 ไปก่อนแล้วส่วนการบริหารด้านการเงินของบริษัท ปัจจุบันมีอัตราการกู้ยืม (Net Dept/EBITDA) อยู่ที่ 3.5 เท่า วางเป้าหมายลดลงลงให้เหลือ 2.5 เท่า ภายในปี 66
www.mitihoon.com