TPIPP ย้ำแผนลงทุน3แสนล.-ลุยสมาร์ทซิตี้ภาคใต้

307

 

มิติหุ้น – TPIPP เผยพร้อมเดินหน้าโครงการสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน หลังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ได้สรุปผลการดำเนินงานฯ โดยนายกรัฐมนตรีได้มีมติ มอบหมายให้ ศอ.บต. ดำเนินการขยายผลโครงการจะนะ พร้อมเร่งสานต่อโครงการมุ่งมั่นสนับสนุนภาครัฐฯ ในการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเพิ่มการสร้างงานและรายได้ ให้ประชาชนในพื้นที่ ย้ำแผนลงทุน 4 กลุ่มอุตสาหกรรม มูลค่าลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาท ดันอำเภอจะนะให้เป็นสมาร์ทซิตี้ 

นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) TPIPP เปิดเผยว่า จากที่นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” สู่เมืองต้นแบบที่ 4 อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งจะกลายเป็น เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” โดยให้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานกรรมการ ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการ และ นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ   

ล่าสุด คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ได้สรุปผลการดำเนินงานแก่นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นที่เรียบร้อย หลังได้รับข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายอย่างครบถ้วนแล้ว ทางนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พิจารณาขยายผลโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ที่มีมติเห็นชอบขยายผลสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” มติ ครม.เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 เรื่องโครงการพัฒนาอำเภอจะนะ ของบริษัทฯ และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) รับหน้าที่ไปประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการใช้อำนาจตามมาตรา 7, 9, 10 และ 18 แห่ง พ.ร.บ.การบริหารจัดการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้เร่งรัดโครงการนี้ และมติ ครม. เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 เพื่อรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้  เพื่อเปลี่ยนสีผังเมืองให้สอดคล้องกับการพัฒนาโครงการฯ นอกจากนี้ให้เสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจต่อไป 

ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าสานต่อโครงการอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต โดยมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนภาครัฐฯ ในการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่  จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเพิ่มการสร้างงานและรายได้ ให้ประชาชนในพื้นที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยได้กำหนดแผนลงทุน 4 กลุ่มอุตสาหกรรม มูลค่าลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาท เพื่อยกระดับอำเภอจะนะให้เป็นสมาร์ทซิตี้ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมยุคใหม่ กระจายสู่อาเซียน 

แผนลงทุนดังกล่าว ประกอบด้วย (1) สวนอุตสาหกรรมสมัยใหม่และเทคโนโลยีแห่งอนาคต อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักรรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (2) เมืองอัจฉริยะ (smart city) อาทิ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมดิจิทัลศูนย์กลางอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรศูนย์การฝึกและพัฒนาอาชีพ, ศูนย์กลางทางด้านการเงินทุกรูปแบบและครบวงจร, ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จและที่พักอาศัย (3) ท่าเรือน้ำลึกและศูนย์กลางการขนส่งและกระจายสินค้า (ทั้งระบบถนนและระบบราง) และ (4) ศูนย์อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าสะอาด อาทิ โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมพลังงานแสงอาทิตย์ และแก๊สธรรมชาติ (LNG) รวม 3,700 MW 

“สำหรับเหตุผลที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ เพราะนักลงทุนไม่มีความมั่นใจสภาพการเมืองในภาคใต้ ไม่มีใครกล้ามาลงทุน เกิดปัญหาด้านการว่างงานทางภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และพาณิชยกรรมของภาคใต้ อีกทั้งผลผลิตทางการเกษตรและปศุสัตว์ตกต่ำ ทำให้ไม่สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูป กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผ่านคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) จึงวางแผนให้เชิญชวน บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) มาลงทุนสร้างเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตที่ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยความเห็นชอบของครม. ตามมติ ครม.ในปี 2562 อันประกอบด้วยนิคมอุตสาหกรรม เมืองอัจฉริยะและอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต รวมทั้งโรงไฟฟ้า 3,700 MW การสร้างอุตสาหกรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะสามารถสร้างงาน ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของพื้นที่และประเทศอย่างมหาศาล และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความมั่นคงของประเทศ จะเป็นการดับไฟได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อพื้นที่มีความเจริญ ผู้คนมีงาน มีเงิน มีรายได้ ตามนโนบาย “อยู่ดี กินดี มีสุข” ของภาครัฐ ไฟใต้ก็จะสงบลง สร้างความมั่นคงใหกับประเทศ ดังนั้นโครงการนี้จึงเป็นโครงการควมมั่นคงของประเทศตามมติครม.ให้กระทรวงและหน่วยงานราขการทุกแห่งให้การสนับสนุน และให้ความสำคัญอย่างเคร่งครัดในการพิจารณา ให้ความสำคัญเป็นอันดับสูงสุดเหนือโครงการอื่น โดยต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงโครงการอื่นให้เหมาะสมกับโครงการนี้ ในกรณีที่มีความขัดกันเช่น ถ้าใน PDP18 เกิดความไม่ลงตัวในความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศก็ควรเลื่อน การสร้างโรงไฟฟ้า 5,000 MW ที่ยังมีปัญหาในปปช.ออกไป จนกว่า ปปช.ตัดสินเรียบร้อยแล้ว และให้ความสำคัญกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามโครงการความมั่นคงของประเทศนี้มาแทนที่ไปก่อน” นายภัคพล กล่าวทิ้งท้าย

www.mitihoon.com