แสนสิริ : เผยยอดขายทะลุ 7,000 ล้านบาท เกินเป้าไตรมาสแรก ล่าสุด Sold Out คาวะ เฮาส์ พร้อมประกาศปรับเป้าไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ล้านบาท

67

มิติหุ้น – นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แสนสิริสามารถสร้างผลงานได้ดีในไตรมาสแรกของปี 64 โดยมียอดขายล่าสุดอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท เกินจากเป้ายอดขายไตรมาสแรกที่วางไว้ 5,000 ล้านบาท และคิดเป็นเกือบ 30% จากเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 26,000 ล้านบาท สร้างผลงานในระดับที่ดีทั้งที่ยังไม่มีการเปิดโครงการใหม่และดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะตลาดที่ยังผันผวนสูงในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทยังได้ปิดการขาย (Sold Out) “คาวะ เฮาส์”รีสอร์ทคอนโดมิเนียมริมน้ำใจกลางสุขุมวิท มูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท  ตอกย้ำความสำเร็จของการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ “HAUS (เฮาส์)” ที่พัฒนาแนวคิดจากเทรนด์ Slow Life หรือการใช้ชีวิตอย่างละเมียดละไม เข้ากับเทรนด์ Eco –Living หรือการใช้ชีวิตที่อิงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อความสมดุล พอเพียงและยั่งยืน ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติกลางเมืองใหญ่ จึงทำให้โครงการภายใต้แบรนด์ HAUS (เฮาส์) ต่างๆ ของแสนสิริ ล้วนได้รับการตอบรับที่ดี ประกอบด้วย hasu HAUS (ฮาสุ เฮาส์), mori HAUS (โมริ เฮาส์) taka HAUS (ทากะ เฮาส์) ซอยเอกมัย 12 รวมถึงล่าสุด kawa HAUS (คาวะ เฮาส์) บนทำเล T77 Community  นอกจากนี้ แสนสิริคาดว่าจะสามารถปิดการขายอีก 5 โครงการแนวราบ ได้แก่ เศรษฐสิริ พัฒนาการ, เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา, บราสิริ พัฒนาการ, บุราสิริ รังสิต และ บุราสิริ วงแหวน อ่อนนุช ในไตรมาส 2 ของปีนี้“นอกจากความสำเร็จของการพัฒนาแบรนด์ HAUS (เฮาส์) ที่แข็งแกร่ง ได้รับการตอบรับที่ดี จนสามารถปิดการขายได้ในทุกโครงการแล้ว คอนโดมิเนียม คาวะ เฮาส์ ยังตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ T77 Community ที่นับเป็นเมืองต้นแบบเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ตอบโจทย์เทรนด์กลุ่มคนรักสุขภาพ และการพัฒนาคอมมูนิตี้สีเขียวที่ยั่งยืน นับเป็นทำเลที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นและนำไปสู่การดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ ในอนาคต ขณะที่ oka HAUS (โอกะ เฮาส์) สุขุมวิท 36 คอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่สไตล์รีสอร์ทวิวโค้งน้ำบางกระเจ้า บนทำเลศักยภาพ พระราม 4 ศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ลูกค้าก็ให้การตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน โดยมียอดขายโครงการไปแล้วกว่า 60%” นายอุทัย กล่าว

 สำหรับคอนโดมิเนียมโครงการ “โอกะ เฮาส์” (oka HAUS) มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 1,178 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 60% ประกอบด้วยห้องขนาด 1 3 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 26.50 86.50 ตารางเมตร บนพื้นที่โครงการประมาณ 5 ไร่ ซึ่งนอกจากความโดดเด่นในการเป็นรีสอร์ทคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่เป็นจุดแข็งของโครงการแล้ว ยังแตกต่างด้วยเทคโนโลยี Smart Living ที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบายตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโครงการ รวมทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างแท้จริง อาทิ  Retreat Room ที่มาพร้อมเก้าอี้นวด OSIM uInfinity Luxe,  Outdoor Theatre และ Hydrotherapy Pool สระว่ายน้ำระบบธาราบำบัดที่แรกของแสนสิริ นอกจากนี้โครงการยังตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ถนนพระราม 4 ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ และเป็นจุดเชื่อมต่อใจกลางเมือง ทองหล่อ – อโศก – สีลม และใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น KVillage และ EmQuartier ครบด้วยศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล สถานศึกษา โรงแรม ฯลฯ แต่ยังคงความสงบและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการพักผ่อนตามคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ HAUS การเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อเพียง 5 นาที พร้อม Shuttle Service รับ-ส่งจากโครงการไปยังรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีทองหล่อ ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร และอาจณรงค์ จึงเดินทางถึงทุกจุดหมายได้เพียงไม่กี่นาที ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท เข้าชมโครงการได้แล้ววันนี้ ที่ โอกะ เฮาส์ สุขุมวิท 36 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sansiri.com/condominium/okahaus

 “บริษัทได้มีการพิจารณาปรับเป้าหมายยอดขายไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ล้านบาท หลังทำผลงานในระดับที่ดี ความสำเร็จมาจากความเชื่อมั่นของลูกค้าในการเป็น

แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” จากการมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการ หรือ Sansiri Service ในการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขาย รวมไปถึง LIV-24 ที่ดูแลความปลอดภัยส่งตรงจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงมาตรฐานแสนสิริ พร้อมเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลทุกจุดในโครงการ พร้อมพริวิเล็จมากมายจากแสนสิริ แฟมิลี่ นอกจากนี้ความสำเร็จยังมาจากการคิดแคมเปญที่มาจากความเข้าใจใน Customer Insight อย่างแท้จริง จนส่งผลให้ “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ประสบความสำเร็จต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาจากการช่วยให้ลูกค้ามีบ้านง่าย ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนที่อยู่อาศัย สามารถนำเงินไปใช้จ่ายอื่นๆได้ สบายใจได้นานตลอดระยะเวลา 2 ปี เพราะแสนสิริผ่อนให้ ทั้งต้น ทั้งดอก นานสูงสุด 24 เดือน* โดยในปีนี้ได้ขยายความสุข ให้คนไทยได้มี บ้านและคอนโดใน 59 โครงการคุณภาพพร้อมอยู่ทั่วประเทศ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริทันที จนต้องมีการปรับเป้ายอดขายตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ ทั้งนี้ แสนสิริยังคงมุ่งมั่นเดินหน้ายืนหยัดการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อมั่น ดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด และพร้อมช่วยเหลือสังคม เพื่อก้าวผ่านทุกสถานการณ์ไปด้วยกันใน “ปีแห่งความหวัง” คืนรอยยิ้มให้ลูกค้า ครอบครัวแสนสิริ และสังคม” นายอุทัย กล่าว 

www.mitihoon.com