YLG ชี้เฟดคงดอกเบี้ยหนุนทองฟื้น แนะจับตาแนวต้านสำคัญ$1,760 ผ่านได้ทิศทางระยะสั้นจะสดใสขึ้น-ล่าสุดเปิดแอพฯYLG Onlineเพิ่มทางเลือกนักลงทุน

184

 

มิติหุ้น-วายแอลจี ประเมินทิศทางทางคำสดใสหลังเฟดคงดอกเบี้ยแต่ยังไม่ใช่ขาขึ้นแม้เริ่มฟื้นตัวในรอบ 2 สัปดาห์ ยังเป็นแค่การรีบาวด์ระยะสั้นเหตุแม้ผ่าน 1,740 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ แต่ยังติดแนวต้านสำคัญในระยะสั้นที่ 1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (25,000 บาท)  ชี้หากไม่เบรกแนวต้านยังมีสิทธิ์ปรับลงเข้าใกล้ 1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนะนักลงทุนจับตาข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอย่างต่อเนื่องแม้การประชุมเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยแต่กลับมีมุมมองต่อเศรษฐกิจดีขึ้น อาจกดดันราคาทองในอนาคต ล่าสุด เปิดตัว YLG Online แอปพลิเคชั่นเทรดทองคำเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มทางเลือกในการลงทุน พร้อมเพิ่มออฟชั่นระบบทดลองเทรดสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการหาประสบการณ์ก่อนลงสนามจริงที่ www.ylgopenacc.com

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า การปรับขึ้นของราคาทองคำในรอบ 2 สัปดาห์ แม้จะเป็นสัญญาณที่ดีแต่เป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ มาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ทิศทางจึงเป็นการรีบาวด์ที่ยังไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าราคาทองคำจะกลับมาเป็นขาขึ้น โดยทิศทางตอนนี้เป็นไปได้ทั้งการไปต่อ หรือการปรับลดลง ทั้งนี้แม้หลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ส่งผลให้ราคาทองคำสามารถผ่านระดับสูงสุดของสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1,740 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ไปได้ หรือประมาณ 25,400 บาทต่อบาททองคำ (คาดการณ์ที่ค่าเงินบาท 30.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งในช่วงสั้นๆอาจจะมีการปรับขึ้นไปถึง 1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หรือประมาณ 25,700 บาทต่อบาททองคำ แต่หากไม่สามารถผ่านได้ ยังมีโอกาสที่จะราคาปรับลดลงมาแถวๆ 1,720-1,700  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หรือประมาณ 24,900 บาทต่อบาททองคำ อีกครั้ง

อย่างไรก็ดีหากราคาทองคำสามารถทะลุ 1,760 ดออลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทิศทางในระยะสั้นจะสดใสมากขึ้น  โดยมีโอกาสปรับขึ้นไปต่อที่ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 26,300 บาทต่อบาททองคำ อย่างไรก็ดี  ทิศทางในระยะกลางของทองคำยังเป็นลักษณะการค่อยปรับตัวลดลง(Sideway Down) จึงอาจจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมา ทำให้ทองคำมีการปรับฐานอีกรอบ ดังนั้นหากมีการดีดตัวขึ้นไปแถวๆ 1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์สามารถใช้เป็นจังหวะขายทำกำไรได้ แต่หากผ่านได้อาจถือต่อ ส่วนแนวรับมองที่ 1,720-1,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

สำหรับปัจจัยที่ยังมีผลกระทบต่อราคาทองคำในช่วงนี้ยังต้องติดตามตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐอย่างต่อเนื่อง เพราะมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงมีผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาทองคำเพราะหากเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าและส่งผลลบต่อราคาทองคำ นอกจากนี้ปัจจัยด้านการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องติดตามแม้ว่าการประชุมในรอบเดือนมีนาคมที่ผ่านมาจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำตามคาด  และจะยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยภายใน 1-2 ปีนี้ แต่การคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มมีมุมมองดีขึ้นนั้นก็ถือเป็นปัจจัยกดดันทองในอนาคตได้

ล่าสุด YLG ได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่น YLG Online สำหรับการซื้อขายทองคำแบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยปัจจุบันให้บริการรองรับระบบ iOS และจะขยายการให้บริการครอบคลุมระบบ android ในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ยังได้พัฒนาระบบทดลองเทรดสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการหาประสบการณ์เสมือนการซื้อขายจริงเพื่อให้เกิดความเข้าใจก่อนการลงทุน โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ylgopenacc.com

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำแท่ง โดยการวางเงินหลักประกัน 50,000 บาท สามารถซื้อขายทองคำแท่ง 96.5% ได้ 60 บาททองคำ และซื้อทองคำแท่ง 99.99% ได้ 1 กิโลกรัม และสำหรับผู้ที่สนใจสามารถเลือกซื้อทางออนไลน์ผ่าน www.ylgprecious.co.th/ ส่วนนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำแท่งสามารถดูรายละเอียดได้ทาง  www.ylgbullion.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-687-9888  และผ่านทางเพจเฟสบุ๊คของบริษัท https://www.facebook.com/YLGGroup และหากสนใจการลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Gold Online Futures และ Gold Futures ) สามารถติดต่อได้ทาง  www.ylgfutures.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-687-9999

www.mitihoon.com