ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนพิริยะ หรือ TNP โดยบทวิเคราะห์ บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า ประเมินรายได้ไตรมาส 1/64 ยังคงโตเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เป็นผลจากการต่ออายุ มาตรการช่วยเหลือของภาครัฐถึง มี.ค.21 จากเดิมสิ้นสุด ธ.ค.63 ได้แก่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะ 2 (เพิ่มอำนาจการซื้อเป็น 700 บาท จากเดิม 200 บาท) และโครงการคนละครึ่งระยะ 2 (ได้ผลประโยชน์ทางอ้อม) ได้อานิสงค์จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นจากการเข้าใช้บริการของนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือ
ทั้งนี้คงประมาณการกำไรสุทธิปี 64 เติบโต 15% จากปีก่อน โดยประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 154 ล้านบาท และคาดรายได้ที่ 2,565 ล้านบาท เติบโต 17% จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 5 สาขา เป็น 37 สาขา ครอบคลุมจังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่ และพะเยา อย่างไรก็ตามประมาณการกำไรสุทธิปี 64 มี upside จาก 1) การขยายสาขาสามารถรองรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (กลุ่มผู้มีรายได้น้อย)ได้มากขึ้น คาดปัจจุบันมีผู้เข้าใช้ราว 30% ของผู้มีบัตรสวัสดิการประชารัฐ โดยจำนวนการเข้าใช้บริการของผู้มีบัตรประชารัฐที่เพิ่มขึ้นทุกๆ +14% จะส่งผลต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น +1% (บนสมมติฐานวงเงินสำหรับใช้จ่ายสินค้าอุปโภค 200 บาทต่อเดือน), และ 2) เรายังเชื่อว่าภาครัฐจะยังต้องมีมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว โดยใน 2Q21E มีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐต่อเนื่องทั้ง ม.33 เรารักกัน และ เราผูกพัน เยียวยาข้าราชการ (วงเงิน 4,000 บาท/คน) ระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ พ.ค.21 ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนให้กับ TNP ซึ่งเรายังไม่รวมในประมาณการ ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 5.20 บาท
www.mitihoon.com
