ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี หรือ PTG ว่า ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปกติในไตรมาส1/64 อยู่ในระดับ 500 ลบ. +/- ชะลอเล็กน้อย QoQ แต่เติบโตสูง YoY จากฐานกำไรที่ต่ำกว่าปกติ เนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกดดันค่าการตลาดในไตรมาส1/63 รวมทั้งได้รับผลกระทบอย่างจำกัดจากการระบาดระลอกใหม่ของ COVID -19 ในช่วงต้นเดือน ม.ค. 64 กดดันปริมาณการจำหน่ายและค่าตลาดเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันของ PTG ในเดือน ม.ค. – ก.พ. 64 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5%YoY และค่าการตลาดกลับมาอยู่ในระดับสูงที่ 2.34 บาท/ลิตร (อ้างอิงสำนักนโยบายและแผนพลังงาน) และคาดส่วนแบ่งทางกำไรจาก Palm Complex ยังคงดีต่อเนื่องจากราคาจำหน่ายปาล์มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% QoQ และ 16%YoY ในช่วงเดือน ม.ค.- ก.พ. 64
เติบโตทำระดับสูงสุดใหม่
ผ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2564 ขึ้น 11% เป็น 2,009 ลบ. เติบโต 8%YoY โดยปรับปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งปีเป็น 5,469 ล้านลิตร (+10%YoY) ใกล้เคียงกับที่บริษัทตั้งเป้าเพิ่มขึ้นที่ 8 – 12%YoY ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจ และคาดค่าการตลาดอย่างระมัดระวังที่ 1.90 บาท/ลิตร รวมทั้งปรับส่วนแบ่งทางกำไรขึ้น 20% เป็น 295 ลบ. จากราคาปาล์มที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและภูมิภาค ได้แรงหนุนจากนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐและการขาดแคลนแรงงานในภูมิภาค โดยเฉพาะ ประเทศมาเลเซียที่ยังคงมีการระบาดของ COVID 19 อย่างรุนแรงทำให้ผลผลิตปาล์มในภูมิภาคลดลง
นอกจากนี้ ประมาณการมี Upside จาก ธุรกิจกัญชา กัญชง บริษัทสนใจที่จะลงทุนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ อาทิ ปลูกและสกัดกัญชาร่วมกับพันธมิตรรายหนึ่ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา กัญชงในช่องทางจำหน่ายต่างๆ อาทิ กาแฟพันธ์ไทย หรือ Max Mart เป็นต้น คาดผลิตภัณฑ์จะทยอยออกจำหน่ายได้ภายในเดือน มี.ค. 64 ช่วยหนุน GPM ของธุรกิจ F&B ได้ในอนาคต ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า เบื้องต้นยังอยู่ในช่วงการทดสอบจำนวน 5 แห่งร่วมกับ EGAT ตั้งเป้าขยายสถานีอัดปะจุไฟฟ้าทั้งปีที่ 30 แห่งใน 13 จังหวัดทั่วประเทศ และ ธุรกิจโรงไฟฟ้า อยู่ระหว่างการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ จำนวน 6 MW ด้วยงบลงทุน 1,000 ลบ. คาดจะเห็นความชัดเจนภายใน 3Q64 ถ้าหากบริษัททำสำเร็จจะเปรียบเสมือนใบเบิกทางให้กับ PTG ในการประมูลโรงไฟฟ้าอื่นๆอีกมาก เป็น Upside ที่เรายังไม่รวมไว้ในประมาณการ
ประมาณการยังมี Upside อีกมาก
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2564 ขึ้นเป็น 24.0 บาท อิง PER ที่ 20x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 30x มี Upside gain เหลือ 17.6% จึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ ประมาณการมี Upside จาก 1) ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่อาจดีกว่าที่เราคาดที่ 5,469 ล้านลิตร (+10%YoY) เทียบกับบริษัทตั้งเป้าเติบโตที่ 8 12%YoY 2) ธุรกิจกัญชา กัญชง คาดจะเริ่มออกผลิตภัณฑ์ได้ภายใน 1Q64 3) ขยายธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging stations) โดยตั้งเป้าขยายสถานีอัดปะจุไฟฟ้าทั้งปีที่ 30 แห่ง 4) เข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าขยะ ขนาด 6MW คาดจะมีความชัดเจนภายใน 3Q64 และ 5) เตรียมนำธุรกิจ Non oil อื่นๆ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาทิ ธุรกิจ LPG, F&B และ Palm Complex