ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง หรือ ETE ทำธุรกิจบริการบริหารจัดการ-งานวิศวกรรม-โซลาร์ฟาร์ม โดย “แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม” เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อคว้างานใหญ่ภาครัฐ “โครงการกระทรวงพลังงานและกระทรวงมหาดไทย” ภายใต้งบประมาณจัดสรร 6,500 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการโครงการภายใต้กลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก จำนวน 2,400 ล้านบาท ซึ่ง ETE จะเข้ารับงานในส่วนของ “ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับบ่อบาดาล”
โดยการรับงานในครั้งนี้ ETE จะรับงานบริษัทย่อยที่เพิ่งจัดตั้งใหม่ คือ “บริษัท เอต้า อะควา จํากัด” ที่ดำเนินธุรกิจจำหน่าย ติดตั้ง สินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ความว่าจะเห็นความชัดเจนเร็งๆนี้
ด้านนายไรวินท์ เลขวรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 64 มั่นใจจะเติบโตต่อเนื่อง เพราะบริษัทจะได้รับอานิสงส์กรณีที่ภาครัฐบาลยังเร่งเดินหน้าโครงการลงทุนใหม่ๆ และการเดินหน้าโครงข่าย 5G ในประเทศ ยิ่งทำให้ปริมาณงานเข้าสู่ระบบมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานใหม่หลายพันล้านบาท ซึ่งเป็นทั้งงานวิศวกรรมระบบโทรคมนาคม, บริการงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า และ ธุรกิจบริหารจัดการ โดยคาดว่าจะได้รับงานใหม่ๆเข้ามาเป็นจำนวนมาก
สำหรับ “ธุรกิจพลังงานทดแทน” ที่ดำเนินการโดย บริษัทและ บ.อีทีอี เมเนจเมนท์ หรือ ETEM ซึ่งมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งสิ้น 16.47 MWนั้น ภายหลังจากที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับปรุงระบบ จนทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้ามีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นทั้งปี 64 คาดกำไรจากโรงไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น จากที่ผ่านมากำไรเฉลี่ย 31-32 ล้านบาท/ปี และ รายได้ที่ 132 ล้านบาท/ปี เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มีกำไร 30 ล้านบาท/ปี และ รายได้ที่ 127 ล้านบาท/ปี
พร้อมกันนี้บริษัทยังมีแผนทุ่มงบลงทุนประมาณ 100-200 ล้านบาท เพื่อลงทุนพัฒนาระบบโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม และ ยังมองโอกาสการเข้าไปมีส่วนร่วมในการลงทุน “โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชุม” ของภาครัฐบาลที่จะออกมาขับเคลื่อนโครงงานในเร็วๆนี้
