บาทอ่อนกระทบต่อกำไรหุ้นใด?

1288

มิติหุ้น-บล.กสิกรไทยระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้ประมาณการอัตราแลกเปลี่ยน (FX) สิ้นปี 2564 เป็น 29.75 บาท/ดอลลาร์ฯ จากกรอบ 29.00 29.25 บาท หลักๆ เป็นผลมาจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า ตลาดเกิดใหม่ (EMs) ที่เป็นผลมาจากมาตรการ กระตุ้น 1.9 ล้านลบ. ของโจ ไบเดน ส่วนในครึ่งแรกของ ปี 2564 พร้อมคาดว่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงสู่ระดับ ราวๆ 31.00-31.25 บาท/ดอลลาร์ฯ สืบเนื่องจากการปรับ เพิ่มประมาณการ GDP ของ Fed ภาพรวมดุลบัญชีเดิน สะพัดของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และวัฏจักรขา ขึ้นของการนำเข้า อย่างที่เห็นในตัวเลขการค้า เดือน ก.พ. 2564 คาดส่งผลดี ต่อ STA และ KCE ดังนี้

ปัจจัยบวกต่อ STA

การส่งออกยางพาราโตขึ้น 22.9% YoY ท่ามกลางสภาวะ ขาดแคลนอุปทานและจากอุปสงค์จากกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ และสินค้าจำพวกยาง รวมถึงการส่งออกถุงมือยางที่ แข็งแกร่ง (+214.8%) ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อ STA โดยนัก วิเคราะห์ของเราระบุว่า STA คือหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่ เลือกจ่ายต้นทุนตู้คอนเทนเนอร์สูงขึ้นเพื่อส่งมอบ ผลิตภัณฑ์ในช่วงที่มีอุปสงค์ที่สูง ทั้งนี้ ปัจจัยอ่อนไหวของ การอ่อนค่าของเงินบาทที่ 1 บาท/ดอลลาร์ฯ จะส่งผลกระ ทบต่อกำไรของ STA ในระดับ 6%

ปัจจัยบวกต่อ KCE

การขยายตัวของสินค้า IC (+9.5%) และตลาดยานยนต์ โลกนั้นเป็นปัจจัยบวกต่อ KCE ปัญหาการขาดแคลนเซมิ คอนดักเตอร์ถือเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่ก็ชี้เป็นนัยถึงคำสั่งซื้อ แผ่นพิมพ์ลายวงจร (PCB) ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้า หลักของ KCE นอกจากนี้ การนำเข้าวัตถุดิบจำพวกอุปรณ์/ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในเดือน ก.พ. 2564 ก็ขยายตัว ขึ้น 6.7% YoY ซึ่งนับเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนมุมมองของ เราต่อการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์และรายได้ไตรมาส 1/2564 ของ KCE ทั้งนี้ ปัจจัยอ่อนไหวของการ อ่อนค่าของเงินบาทที่ 1 บาท/ดอลลาร์ฯ จะส่งผลกระทบ ต่อกำไรของ KCE ในระดับ 11.8%

www.mitihoon.com