ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ (VPO)ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ และผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากของเสีย หรือสิ่งเหลือใช้จากกระบวนการสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โดย “แหล่งข่าวนักวิเคราะห์” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 1/64 คาดกำไรสุทธิจะเติบโตก้าวกระโดด หรือ “หลายเท่าตัว” เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 66.97 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 182.49 ล้านบาท
ราคาน้ำมันปาล์มพุ่ง-Q1เด่น
เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1/64 “ราคาน้ำมันปาล์มดิบ” ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากช่วงปลายไตรมาส 4/63 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นผลมาจากภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวสูง บวกกับเป็นช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย จึงส่งผลให้ราคาปาล์มดิบปรับตัวพุ่งสูงในรอบ 13 ปี และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการทั้งปี 64 พลิกกลับมาบวกได้
นอกจากนี้ บริษัทจะยังมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าที่ชุมพร ขนาดกำลังผลิต 8.4 MW , โครงการโรงไฟฟ้าทุ่งคา 2.8 MW และโครงการโรงไฟฟ้าที่ท่าแซะ 5.6 MW ดังนั้นประเมินราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวทดสอบแนวต้านที่ 1 บาท ส่วนราคาเป้าหมายที่ 1.80 บาท/หุ้น
ภาครัฐหนุนฐานธุรกิจแกร่ง
ด้าน “นายกฤษดา ชวนะนันท์” กรรมการผู้จัดการ VPO เปิดเผยว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัทในอนาคตนั้น นับจากไตรมาส3/63 ที่มีการรับซื้อปาลม์ดิบจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.)และมีการส่งออกน้ำมันปาลม์ดิบเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยดูดซับอุปทานส่วนเกินทำให้สต็อกในประเทศเริ่มปรับตัวลดลง นอกจากนี้รัฐบาลมีการประกาศนโยบายส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาลม์ดิบ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2564 ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้ราคาน้ำมันปาลม์ดิบในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัท
www.mitihoon.com
