“โควิด-19” ระบาดระลอกใหม่ กลับมาสร้างความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ และตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง ทำให้นักลงทุน“ไม่กล้าซื้อหุ้นอย่างจริงจัง” และช่วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ก็อาจทำให้เชื้อแพร่กระจายมากขึ้น โดยแพทย์หลายท่านกังวลว่าอาจเห็นการติดเชื้อวันละหลักพันถึงหลักหมื่นคนต่อวัน
หากกรณีตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น และมีมาตรการคุมเข้มออกมาเพิ่มเติม คาดว่า “ดัชนีหุ้นไทย” มีโอกาสปรับลงทดสอบระดับ 1,530+-จุด ซึ่ง “เหล่านักวิเคราะห์” ต่างมองว่าระดับดัชนีดังกล่าวเป็นจุดที่สามารถเริ่ม “ทยอยสะสม” หุ้นพื้นฐานได้
5กลุ่มเด่นน่าลงทุนช่วงQ2
โดยวันนี้ “บล.ทรีนีตี้” จะมาจัดธีมการลงทุนหุ้นในช่วงไตรมาส 2/64 ซึ่งทาง “ทรีนีตี้” ได้คัดเลือกกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจลงทุน ซึ่งเน้น กลุ่มที่มี P/Eต่ำกว่า 15 เท่า และมีราคาต่อมูลค่าบัญชีต่ำกว่า 2 เท่า ซึ่งมีทั้งสิ้น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มธนาคารพาณิชย์, 2.กลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ , 3.กลุ่มเกษตร , 4.กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และ 5.กลุ่มประกัน
นำโดย “กลุ่มธนาคารพาณิชย์” แนะนำธนาคารเล็ก คือ TISCO ,“กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์” แนะนำ AH ซึ่งแนวโน้มกำไรปี 64 เติบโตสูง, “กลุ่มเกษตร” แนะนำ STA และ STGT ซึ่งสินค้ายางธรรมชาติและถุงมือยางยังคงส่งออกได้ดี , “กลุ่มวัสดุก่อสร้าง “แนะนำ SCC ที่ได้ประโยชน์จากสเปรดปิโตรเคมีในระดับสูง ในขณะที่ “กลุ่มประกันภัย” ถือว่าเป็นกลุ่มที่จะได้อานิสงส์ จากบอนด์ยีลด์อยู่ในภาวะที่ยังปรับตัวสูงขึ้น
เก็บหุ้นเข้าดัชนี ‘MSCI- SET50’
นอกจากนี้ยังมีหุ้นที่ “ทรีนีตี้” คาดการณ์ว่าจะถูกนำเข้าคำนวณดัชนีสำคัญในช่วงถัดไป อย่างเช่น ดัชนี MSCI ที่จะมีการทบทวนในเดือน พ.ค. ซึ่งในส่วนนี้คาดว่า SCGP จะเป็นตัวเก็งหลัก ในขณะที่ ดัชนี SET50 ประจำงวดครึ่งปีหลังนั้น คาดว่าหุ้นที่จะถูกนำเข้าคำนวณคือ STGT, IRPC และ STA ซึ่งหากนักลงทุนต้องการ “เก็งกำไร” ในหุ้นที่คาดว่าจะถูกนำเข้าไปคำนวณในดัชนีเหล่านี้ จังหวะที่เหมาะสมก็คือช่วง 1-2 เดือนก่อนหน้าที่จะมีการประกาศ ซึ่งก็ตรงกับช่วงเวลานี้พอดี
กลยุทธ์เลือกหุ้นช่วง เม.ย.
สำหรับกลยุทธ์การในช่วงเดือน เม.ย.64 ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในภาวะที่อึดอัด การปรับตัวขึ้นอย่างสำคัญจะมีความยากจาก Valuation ที่อยู่ในระดับสูง ส่วนการปรับฐานรุนแรงก็ยังเกิดได้ยากจากสภาพคล่องทั้งภายในและภายนอกที่ยังคงเอ่อล้น ด้วยเหตุนี้กลยุทธ์เดือน เม.ย.จึงแนะนำให้ Selective หุ้นดังนี้
- กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Reopening และมี Valuation ที่ถูก เช่น หุ้นน้ำมัน คือ OR, PTG , กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BCH, IMH
- กลุ่มส่งออกที่ได้ประโยชน์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและเงินบาทอ่อนค่า เช่น ยานยนต์ AH และกลุ่มอาหาร CPF,TU
- กลุ่มหุ้นที่คาดว่ารายได้และกำไรออกมาดี เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้ารวมถึงอัตราปันผลเกิน 3% ขึ้นไป ADVANC, EGCO, PTT ,QH, SCC
- กลุ่มลุ้นเข้า MSCI ได้แก่ SCGP 5. กลุ่มลุ้นเข้า SET50 ได้แก่STGT, IRPC,STA
www.mitihoon.com