SC รับผลดีเต็มๆ รัฐเล็งผ่อนปรนต่างชาติซื้ออสังหาฯไทย

324

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) โดยบทวิเคราะห์ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินว่า จากกรณีที่ รัฐบาลกำลังแก้กฎหมาย เปิดทางนักลงทุนต่างชาติซื้ออสังหาฯ คือคอนโดฯ-บ้านแนวราบ หวังดึงเม็ดเงินต่างประเทศช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด ปลดล็อกต่างชาติซื้อ “บ้านจัดสรร” ระดับราคา 10-15 ล้านบาทขึ้นไปได้ จากเดิมไม่ได้พร้อมขยายเพดานซื้อ “คอนโดฯ” เป็น 70-80% จากเดิมจำกัดแค่ 49% แต่ส่วนเกิน 49% ไม่มีสิทธิโหวตประชุม จากการสัมภาษณ์“นิติบุคคลอาคารชุด” เผยจะมีการออก“พ.ร.ก.” ให้สิทธิพิเศษซื้อภายใน 3-5 ปี เตรียมเสนอเข้าที่ประชุม ศบศ.ปลาย เม.ย.นี้

ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่า SC จะได้ประโยชน์สูงจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐ หากมาตรการข้างต้นนี้ได้มีการดำเนินการออกมาจริงสืบเนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีส่วนครองตลาดสูงสุดในบ้านแนวราบราคา 10-20 ล้านบาทในปี 63 ที่16% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี62 ที่ 9% (ข้อมูลจาก SC, AREA) และตามแผนงานแล้ว ในปี 64 นี้ บริษัทจะมีโครงการทั้งสิ้น 69 โครงการ ที่มูลค่าขาย57.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 64% หรือ 36.9 พันล้านบาท และคอนโด 36% หรือ 20.6 พันล้านบาท ทั้งนี้ในโครงการบ้านแนวราบ จะมีระดับราคา 10-20 ล้านบาทมากถึง 16 โครงการ และคิดเป็น 39% จากมูลค่าทั้งหมด และ ณสิ้นปี 63 มีสต็อกคอนโดที่สร้างเสร็จแล้วพร้อมขาย-โอนที่มูลค่า 6.7 พันล้านบาท

พร้อมคาดยอดขายไตรมาส 1/64 ทำได้สูงมาก 5.7 พันล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 188% y-o-y และ 35% q-o-q ตามลำดับ จึงคาดว่ารายได้จากการขาย ไตรมาส1/64 ทำได้สูง ราว 5.4 พันล้านบาท จะมาจากสองส่วนคือ 1) รายได้จากยอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นปี 63 เป็นแนวราบที่พร้อมโอนได้ราว 2.1 พันล้านบาท และคอนโดราว 0.4 พันล้านบาท รวมเป็น2.5 พันล้านบาท โดยในส่วนอีกราว 0.5 พันล้านบาทเป็น คอนโด 28 ชิดลม ซึ่งยังไม่ได้โอน เป็นของลูกค้าต่างชาติ ต้องรอให้ไทยเปิดประเทศก่อน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงครึ่งหลังปี 64และ 2) รายได้จากการโอนยอดขายในไตรมาส 1/64 ที่ราว 50% หรือ 2.9พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะไปโอนในไตรมาสถัดๆไปปรับประมาณการปีนี้และปีหน้าเพิ่ม ในอัตรา +12%/+6% สะท้อนรายได้เพิ่ม และบริหารค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพตามตารางที่ได้แนบมา

ทั้งนี้การที่บริษัททำยอดขาย ไตรมาส1/64 ได้สูง และคิดเป็น 29% จากเป้าหมายการขายปีนี้ที่ 20 พันล้านบาทแล้ว จึงคาดว่าปีนี้บริษัทจะสามารถบรรลุรายได้รวมปีนี้ที่ 19 พันล้านบาทไว้ได้และปี65 เพิ่มได้อีกเป็น 21.4 พันล้านบาท โดยมากกว่าเดิมในอัตรา +7%/+6% กอปรกับสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้ให้ลดลงต่ำลงกว่าเดิมเป็น -17.4% และ -17.0% ตามลำดับ

จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานใหม่ปรับเพิ่มเป็น 3.58 บาท สะท้อนการปรับประมาณการให้ดีขึ้น และประเมินด้วยForward P/E ที่เพิ่มขึ้นจาก 7.5 เท่า เป็น 8.0 เท่า ส่วน ESOP-W ทยอยแปลงช่วยเพิ่มฐานทุน และจ่ายปันผลได้สูง คาดการณ์ยิลด์ปันผลปีนี้และปีหน้าเป็น 5.6%/6.5% คาดกำไรปี 65 กลับมาเติบโตสูง และ บรรลุเป้าอันดับ 1 บ้านเดี่ยว

www.mitihoon.com