CPF ผ่านมาตรฐาน IPHA  61 โรงงาน  ตอกย้ำอาหารมั่นคง ปลอดโควิด-19

81
มิติหุ้น-บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัย “IPHA – Industrial and Production Hygiene Administration” ถึง 61 โรงงาน มากสุดในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมทั้งประเทศ ตอกย้ำความปลอดภัยในมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ตลอดกระบวนการผลิต สร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
นายสิริพงศ์ อรุณรัตนา ประธานผู้บริหารฝ่ายปฎิบัติการธุรกิจสัตว์บก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ  เปิดเผยว่า การได้รับการรับรองมาตรฐาน IPHA ถึง 61 โรงงาน แสดงให้เห็นว่าซีพีเอฟ มีการบริหารจัดการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยจัดตั้งทีมบริหารจัดการโรคระบาดทั้งในคนและในสัตว์ ภายใต้ศูนย์อำนวยการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ของบริษัท ช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในด้านอาหารปลอดภัย และตอกย้ำความมั่นคงทางอาหารของประเทศ
ทั้งนี้ ซีพีเอฟ กำหนดมาตรการสำคัญ เพื่อให้การบริหารจัดการธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม 3 ประเด็นคือ 1.) ความมั่นคงทางด้านอาหาร ที่บริษัทต้องสามารถเดินสายพานการผลิตอาหารโดยไม่สะดุด เพื่อป้องกันอาหารขาดแคลน 2.) ระบบซัพพลายเชน และโลจิสติกส์  3.) มาตรการป้องกันโรคในแต่ละขั้นตอน อาทิ การออกประกาศเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติตัวของพนักงานทั้งในและต่างประเทศ การให้ Work From Home เป็นต้น
จากการระบาดรอบแรกจนถึงปัจจุบัน ซีพีเอฟยังคงทำหน้าที่ผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังแบ่งปันมาตรการและเทคนิคบริหารจัดการสถานการณ์ไปยัง บริษัทคู่ค้า เกษตรกร และผู้สนใจ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยที่จะร่วมกันก้าวข้ามสถานการณ์ไวรัสนี้ไปด้วยกัน
ขณะเดียวกัน ยังคำนึงถึงการช่วยเหลือคู่ค้าธุรกิจระดับ SMEs ให้มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง โดยขยายเวลาโครงการ Faster Payment ลดเวลาเครดิตเทอมภายใน 30 วัน เพื่อพยุงการจ้างงานและหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังเดินหน้า “โครงการส่งอาหารจากใจร่วมต้านภัยโควิด-19″ ต่อเนื่อง โดยมอบอาหารปลอดภัยเป็นกำลังใจและลดภาระการจัดเตรียมอาหารแก่บุคลากรทางการแพทย์รวมถึงผู้ติดเชื้อ ในโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 1 ศูนย์กีฬา เฉลิมพระเกียรติ 84พรรษา และ ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) ด้วย
อนึ่ง มาตรฐาน IPHA เป็นมาตรฐานที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันวางกรอบการพิจารณา เพื่อมอบให้แก่สถานประกอบการที่มีการบริหารจัดการสถานที่ กระบวนการผลิต และบุคลากร ตามมาตรการร่วม และมาตรฐานด้านสุขอนามัย ที่มีการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการจัดการเพื่อป้องกัน COVID-19 อย่างชัดเจน