ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- หน่วยงานด้านพลังงานชั้นนำของโลกประเมินอุปสงค์น้ำมันโลกปี 2564 เพิ่มขึ้น โดย International Energy Agency (IEA) คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปีนี้อยู่ที่ระดับ 96.69 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.69 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากประเมินเดือนก่อน 0.21 ล้านบาร์เรลต่อวัน และระบุว่าตลาดน้ำมันจะเข้าสู่สมดุลในครึ่งหลังของปีนี้ ขณะที่ OPEC คาดอุปสงค์น้ำมันโลกปีนี้อยู่ที่ระดับ 96.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.95 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากประเมินเดือนก่อน 0.19 ล้านบาร์เรลต่อวัน ด้าน Energy Information Administration (EIA) คาดอุปสงค์น้ำมันโลกปี 2564 อยู่ที่ระดับ 97.67 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากประเมินเดือนก่อน 0.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้การใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แรงหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
- ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency: IAEA) ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 64 ว่าอิหร่านเริ่มเดินเครื่องเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ที่ติดตั้งอยู่ชั้นใต้ดินในโรงงานนิวเคลียร์ที่เมือง Natanz ให้มีความบริสุทธิ์สูงสุด 60% มากกว่าที่ระบุอยู่ในข้อตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์ Joint Comprehensive Plan of Action (JCPOA) ฉบับปี 2558 ซึ่งระบุไว้ว่า ต้องไม่เกิน 3.67% ทั้งนี้รัฐบาลอิหร่านประกาศเดินเครื่องเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่โรงงานในเมือง Natanz หลังเกิดเหตุระเบิดที่โรงงานแห่งนี้ เมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย. 64 ซึ่งอิหร่านกล่าวหาว่าอิสราเอล เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
- กรมศุลากรของจีนรายงานอัตราการนำเข้าน้ำมันดิบ เดือน มี.ค 64 เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 11.69 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำมันที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก หลังโรงกลั่นปิดซ่อมบำรุงในช่วงฤดูหนาว
ปลายเดือน ธ.ค. 63 – ปลายเดือน มี.ค.64 และอุปสงค์จากการผลิตภาคเกษตรกรรมในฤดูใบไม้ผลิช่วงปลายเดือน มี.ค. 64 – ปลายเดือน มิ.ย. 64
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- Baker Huges รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (Rig Counts) ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 เม.ย. 64 เพิ่มขึ้น จากสัปดาห์ก่อน 7 แท่น อยู่ที่ 344 แท่น สูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 63
แนวโน้มราคาน้ำมัน
สถานการณ์เกี่ยวกับการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ในหลายประเทศ ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันมีแนวโน้มลดลง ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขอินเดียเปิดเผย ณ วันที่ 18 เม.ย. 64 ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 275,306 รายต่อวัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันทะลุระดับ 260,000 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 15,057,767 ราย นับเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก สหรัฐฯ ขณะทีผู้เสียชีวิตในอินเดียเพิ่มขึ้น 1,625 รายต่อวัน ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสมสู่ระดับ 178,793 ราย และนาง Angela Merkel นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีเรียกร้องให้รัฐสภาเยอรมนีออกกฎหมายเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลสามารถประกาศ Lockdown และ Curfew ในพื้นที่อัตราการติดเชื้อ COVID-19 สูงได้ในทันที เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Worldometers ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในเยอรมนี ณ วันที่ 18 เม.ย. 64 อยู่ที่ 13,123 รายต่อวัน ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 3,151,030 ราย และยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 80,591 ราย
ด้านภูมิรัฐศาสตร์ ให้ติดตามความคืบหน้าการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยผู้แทนของ อิหร่าน, สหรัฐฯ, จีน, รัสเซีย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และ เยอรมนี ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ด้านความขัดแย้งระหว่าง สหรัฐฯและรัสเซีย หลังกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เนรเทศนักการฑูตรัสเซีย 10 คน โดยกล่าวหาว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. 63 และโจมตีทางไซเบอร์โดยขโมยข้อมูลของสหรัฐฯ ล่าสุดโฆษกรัฐบาลรัสเซีย นาย Dmitry Peskov กล่าวว่ารัสเซียจะเนรเทศนักการทูตสหรัฐฯ 10 คน ออกจากรัสเซียเพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว
www.mitihoon.com
