มิติหุ้น – ผู้ถือหุ้น บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP )พร้อมใจยกมือโหวตจ่ายเงินปันผลงวดปี2563 เป็นเงินสดอัตราหุ้นละ0.25 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 233.13 ล้านบาท กำหนดจ่ายวันที่ 14 พ.ค.นี้ ไฟเขียวเพิ่มวงเงินออกหุ้นกู้เป็น 3,000 ล้านบาท จากเดิม 2,000 ล้านบาท และอนุมัติเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป 559.50 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการลงทุนในอนาคต ฟาก “ยุทธ ชินสุภัคกุล” บิ๊กบอส ระบุเดินหน้าลงทุนโครงการใหม่ๆ คาด”วินด์ฟาร์ม 160 MW ที่เวียดนาม” จ่ายไฟฟ้าได้ Q4 ปี 2564 มั่นใจผลงานปี 64 โตต่อเนื่อง ปักหมุด 5 ปีมีสินทรัพย์เพิ่มแตะ5 หมื่นล้านบาท
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) เปิดเผยว่าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 มีมติอนุมัติให้จัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงานปี 2563 โดยจ่ายปันผลในรูปของเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท เป็นจำนวนเงินประมาณ 233.13 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 28 เมษายน 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564
ที่ประชุมฯได้อนุมัติให้เพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป(General Mandate) จำนวน 559,504,200 บาท จากทุนจดทะเบียน 932,507,097 บาทเป็นทุนจดทะเบียน1,492,011,297 บาท โดยการออกหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 559,504,200 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมทั้งที่ประชุมฯอนุมัติเพิ่มวงเงินการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯจากเดิมวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 3,000 ล้านบาท
“สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564 บริษัทฯคาดว่าจะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรให้เติบโตได้ต่อเนื่อง โดยธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีการเติบโตของยอดขายในระดับ 80%จากปีก่อน ในส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทน บริษัทฯมีแผนขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆอีก ทั้งในและต่างประเทศ ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 160 เมกะวัตต์ในประเทศ เวียดนาม อยู่ระหว่างการก่อสร้างก็เป็นไปตามแผน คาดว่าจะสามารถทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)ได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เป็นต้นไป”
ประธานกรรมการกล่าวอีกว่า บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในเวียดนามตอนกลาง ขนาดกำลังผลิตประมาณ 1,500 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการร่วมทุนกับผู้ผลิตไฟฟ้ารายอื่นทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้นได้อีกมากในอนาคต
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีความสนใจจะพิจารณาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะโครงการ Solar 30,000 เมกะวัตต์ของกองทัพบก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทฯมีตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีจะมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 5 หมื่นล้านบาทได้
www.mitihoon.com