ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนพิริยะ หรือ TNP โดย “บล.เคทีบีเอส” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 1/64 คาดกำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดของปีที่ 51 ล้านบาท เติบโต 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 14% จากไตรมาสก่อน
เนื่องจาก 1.รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 690 ล้านบาท หรือเติบโต 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 12% จากไตรมาสก่อน สืบเนื่องจากการต่ออายุมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐเพิ่มขึ้นอีก 3เดือนเป็นสิ้นสุดโครงการในเดือน มี.ค. 64 จากเดิมที่สิ้นสุด ธ.ค.63 ซึ่งมาตรการส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัทโดยตรง
ได้แก่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐปรับวงเงินซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 700 บาทต่อเดือน จากเดิมที่ 200 บาทต่อเดือน และบริษัทยังได้ประโยชน์ทางอ้อมจากโครงการคนละครึ่งเฟส 2 จากการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่ และพะเยา ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือ, และ 2.SG&A to sales ปรับตัวลดลงเป็น 8% (4Q20 = 8.4%, 1Q20 = 9.4%) เป็นผลจากรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงขณะที่ค่าใช้จ่ายการตลาดและการบริหารค่อนข้างทรงตัว
ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/64 คาดผลประกอบการจะอ่อนตัวลงหลังจากสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือจากรัฐและมติ ครม. (20 เม.ย.64) เห็นชอบเพิ่มสิทธิ์โครงการเราชนะ เป็นเพียงการขยายระยะเวลาใช้เงินถึง 30 มิ.ย. 64 จากเดิมสิ้นสุด 31 พ.ค. 63เท่านั้น นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดไม่เห็นมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม หลังจากรัฐมีแผนเปิดประเทศในไตรมาส 3/64
ดังนั้นทั้งปี 64 ปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้น 23% เป็น 190 ล้านบาท เติบโต 42% จากปีก่อน จากเดิมที่ 154 ล้านบาท โดย 1.ปรับรายได้เพิ่มขึ้น 4% เป็น 2,671 ล้านบาท เติบโต 21.6% จากปีก่อน และ 2.ปรับลด SG&A ลงเป็น 224 ล้านบาท จากเดิมที่ 251 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 6.40 บาท
www.mitihoon.com