หุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก น่าจะ Outperform

505

 ภาพรวมดัชนี SET index สัปดาห์ที่ผ่านมายังถูกกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งความกังวลเรื่องของผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้เราประเมินหุ้นที่เน้นการทำธุรกิจในประเทศ อาทิ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มสื่อ เป็นต้น อาจได้รับผลกระทบจากการปรับลดประมาณการฯของนักวิเคราะห์ โดยคาดจะเริ่มเห็นการปรับลดประมาณการฯในช่วงของการ Preview งบ 1Q64 ขณะที่หุ้นที่มีผลการดำเนินงานเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก อาทิ กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มเดินเรือ มีโอกาสที่จะ Outperform ตลาดฯในช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศยังทรงตัวหรือแย่ลง สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามเพิ่มเติมได้แก่ การแถลงมาตรการภาษีของทางสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีประเด็นเรื่องของ Capital gains tax (ภาษีจากการขายหลักทรัพย์) ซึ่งประเมินว่า อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่ง Sentiment เชิงลบมายังตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงไทย แต่ในระยะกลางเราประเมินว่าหากสหรัฐฯมีการเก็บภาษีดังกล่าวจริง มีโอกาสที่เม็ดเงิน Fund flow จะไหลมายัง Emerging market แทน ได้เช่นกัน

สำหรับแนวโน้มดัชนี SET index ในสัปดาห์นี้ คาดจะยัง Sideway (down) ต่อ และขึ้นอยู่กับการประกาศมาตรการของภาครัฐฯเพิ่มเติม หากภาครัฐฯพิจารณาแล้วว่าสถานการณ์โควิด-19 ในไทยยังไม่สามารถควบคุมได้ ประเมินแนวรับ 1,540 จุด และ 1,525 จุด / แนวต้าน 1,580 – 1,590 จุด

คาดระยะสั้นยังมีการเล่นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว/รายกลุ่ม โดยกลุ่มฯที่น่าสนใจ อาทิ i) กลุ่มที่ได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาดของไวรัสฯ เช่น หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล (BCH, THG) หุ้นโบรกเกอร์ขายประกัน (TQM) หุ้นขนส่งสินค้า (LEO, III, KEX) หุ้นบรรจุภัณฑ์ (SCGP EPG) ii) กลุ่มที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก เช่น กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (TVO, KSL) กลุ่มเดินเรือ (RCL, TTA, PSL) กลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี (PTTGC, IRPC)

โดย สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)

www.mitihoon.com