ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนพิริยะ หรือ TNP ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารสดภายใต้ชื่อ “ธนพิริยะ” ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 32 สาขา แบ่งออกเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต 31 สาขา และศูนย์ค้าส่ง 1 สาขา โดย “นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ” ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจปี 64 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน โดยแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกยังส่งสัญญาณบวกต่อเนื่อง รับมาตรการรัฐทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และนโยบายที่ทยอยประกาศออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ เข้าถึงประชาชนให้สามารถจับจ่ายใช้สอย และกระตุ้นภาพรวมตลาดโดยรวมให้คึกคัก ส่งผลดีต่อบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคและบริโภค
ลุยเปิดสาขาเพิ่ม 5 แห่ง
ขณะที่แผนดำเนินธุรกิจในปี 64 นี้ บริษัทเตรียมรุกขยายสาขาอย่างต่อเนื่องอีก 5 สาขาในปีนี้ สนับสนุนให้ ณ สิ้นปีมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 37 สาขา ครอบคลุม 3 จังหวัดภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ และพะเยา
รัฐผลดีมาตรการรัฐ-งบQ1โต
“ฝ่ายวิจัย” บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินเชิงบวกต่อมาตรการที่ ครม. อนุมัติคนละครึ่งเฟส เฟส 3. เราชนะ, ม.33, บัตรสวัสดิการ และยิ่งใช้ยิ่งได้จากเม็ดเงินช่วยเหลือที่จะเข้าหมุนเวียนในระบบมากกว่า 2 แสนลบ. คาด TNP เป็นผู้ประกอบการที่รับประโยชน์โดยตรงจากมาตรการเหล่านี้ โดยเฉพาะโครงการบัตรสวัสดิการระยะ 3 จะช่วยเพิ่มรายได้เข้ามาอีกในช่วง ก.ค. – ธ.ค. นี้ เป็น Upside จากประมาณการปัจจุบันที่คาดกำไร 161 ล้านบาท เติบโต 20% เทียบปีก่อน จากกำหนด SSSG ปี 64 โต 3% โดย SSSG ทุกๆ 1% ที่เพิ่ม มีผลต่อกำไรปี 64 เพิ่ม
ด้านแหล่งข่าวนักวิเคราะห์ ประเมินแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/64 คาดยังเติบโตเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จากได้รับอานิสงส์จากการต่ออายุมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ หนุนคนเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และช่วงไตรมาสแรกเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของภาคเหนือ รวมทั้งแผนขยายสาขาของบริษัทเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการ ให้คำแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 7 บาท
www.mitihoon.com
