ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส1/64อยู่ที่ 1,803 ล้านบาท ปรับสูงขึ้น77.4% จากปีก่อนหน้า (ดีกว่าโบรกคาด) เนื่องจากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็น และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มมีอัตรากำไรที่ดีขึ้นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปรกติอยู่ที่ 2,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99.8% โดยมีรายการพิเศษเป็นการปรับมูลค่าทางบัญชีของสัญญาเช่าของ Red Lobster และการปรับมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทในเครือ TUMD ที่ประเทศรัสเซีย
ขณะที่รายได้จากยอดขายในไตรมาสที่ 1/2564 ที่ 31,125 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้าเนื่องจากยอดขายอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.3% จากไตรมาส 1 ปีก่อน และยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น 20.8% ขณะที่ยอดขายกลุ่มอาหารทะเลแปรรูปลดลง 13.1% โดยภาพรวมยอดขายรวมยังเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงก่อน COVID-19 ในไตรมาส 1/2562 อยู่ 6.0%
ขณะที่ บล.เอเซีย พลัสแนะนำ “ซื้อ” TU พร้อมประเมินราคาเป้าหมายที่ หุ้นละ 20 บาท/หุ้น คาดกำไรสุทธิทั้งปี 64 อยู่ที่ 6.39 พันล้านบาท จะเพิ่มขึ้น 2.3% yoy จากธุรกิจทูน่ากระป๋องอาหารสัตว์เลี้ยงยังดีต่อเนื่อง ธุรกิจอาหารแช่เย็นและแช่แข็ง (กุ้งและแซลมอน) จะฟื้นตัว รวมถึงคาดธุรกิจ Red Lobster จะขาดทุนลดลงในปี 64 จากการปรับกลยุทธ์ โดยเน้นขายอาหารกลับบ้านและเน้นควบคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้น
www.mitihoon.com
