ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) โดยบทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ระบุว่า BDMS แจ้ง กำไรสุทธิ ไตรมาส1/64 เป็นไปตามที่เราคาด แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 11% โดยกำไรสุทธิ ไตรมาส1/64 อยู่ที่ 1.34 พันล้านบาท -48%YoY, -44%QoQ เพราะรายได้จากคนไข้ไทยลดลง -7%YoY และรายได้จากคนไข้ต่างชาติหดตัว -49%YoY สำหรับรายได้รวม -19%YoY, -11%QoQ เป็น 1.53 หมื่นล้านบาท
EBITDA margin ลดเป็น 21.7% ใน ไตรมาส 1/64 จาก 23.9% ในไตรมาส 1/63 แต่ดีขึ้นจาก 18.8% ใน ไตรมาส 4/63 เพราะมีโครงการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลงเหลือเพียง 3 ล้านบาท (-99%YoY, -89%QoQ) เนื่องจากขายเงินลงทุนใน BH ออกไปทั้งหมดใน ไตรมาส 4/63
ฝ่ายวิจัยจึงผลประกอบการ ไตรมาส 2/64F มีแนวโน้มเติบโตได้ YoY และ QoQ จาก 1) คนไข้ไทยเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และQoQ และ 2) มีรายได้จากบริการโควิด-19โดยคาดว่าใน ไตรมาส 2/64F จะมีการตรวจโควิดมากขึ้นเป็น 2.7 แสนราย และทำรายได้ 6% ของรายได้รวมใน ไตรมาส 2/64F (จาก 3% ใน 1Q64F)
สำหรับทั้งปี 64F-65F คาดว่ากำไรจะเติบโตได้ต่อเนื่อง เป็นผลจาก 1) มีรายได้จากบริการโควิดเพิ่มขึ้นในปี 64F, 2) การใช้วัคซีนที่กระจายตัวมากขึ้นทำให้คนไข้ไทยและต่างชาติทยอยฟื้นตัว, 3) ผลขาดทุนจากโรงพยาบาลที่เปิดใหม่น้อยลง และ 4) ไม่มีแผนใช้เงินลงทุนขนาดใหญ่ในช่วงปี 64F-65F ทางฝ่ายวิจัยฯ DBS คาดการณ์กำไรสุทธิบรรทัดสุดท้ายปี 64F ทรงตัว YoY และเติบโต +25%YoY ในปี 65F ซึ่งคิดเป็น 47% และ 59% ของกำไรสุทธิปี 62
จึงคงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐานเป็น 28 บาท (DCF, WACC 7.1%, TG 2.5%) ความเสี่ยงหลัก คือ 1) การฟื้นตัวของ Medical tourism ช้ากว่าคาด, 2) ผลขาดทุนใน Wellness centre เยอะกว่าคาดและ 3) มีการแพร่ระบาดของโควิดรุนแรงระลอกใหม่
www.mitihoon.com