UAC ส่งซิก Q2 ฟื้น – ตุน Backlog รอส่งมอบ 250ลบ.เตรียมกระโดดชิงเค้กโรงไฟฟ้าชุมชน

57

มิติหุ้น  –  บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) ส่งสัญญาณพลังงานไตรมาส 2 /64 ฟื้น หนุนธุรกิจเทรดดิ้งขยับตัว ตุน Backlog แล้วกว่า 250 ล้านบาท แม้ในสภาวะโควิด-19 บวกธุรกิจไบโอดีเซล มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น ทำให้ EBITDA อยู่ที่ 119.81 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลงทุนทั้งโรงไฟฟ้าชุมชน Energy Efficiency และ Bio Circular Economy ส่วนผลงานไตรมาส 1/2564 ทำกำไรได้ที่ 77.08 ล้านบาท และรายได้จากการขายและการให้บริการ 334.86 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากผลกระทบแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี  โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทในไตรมาส 2/2564 นั้น ยังคงมุ่งเน้นนโยบายการลงทุนด้าน Energy Efficiency และ Bio Circular Economy ทั้งในประเทศ กลุ่มประเทศ CLMV โดยจะพิจารณาต่อยอดธุรกิจเพื่อเลือกลงทุนในโครงการที่สร้างผลตอบแทน (ROE)ในระดับไม่ต่ำกว่า 20% ขึ้นไป จากที่ปัจจุบันอยู่ในระดับ 18.5% พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่อย่างใกล้ชิด และประเมินผลกระทบต่อธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้อีกครั้ง

ขณะเดียวกันภาพรวมด้านกลุ่มพลังงานเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ทำให้มี Backlog รอส่งมอบกว่า 250 ล้านบาท ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจเทรดดิ้ง อาทิ โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี พลังงาน และเคมีภัณฑ์ เริ่มกลับมาเดินเครื่องผลิตได้ตามปกติ และการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด โดยมุ่งเน้นไปที่การทำกำไรสุทธิเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง และขยายโอกาสทางธุรกิจโดยปรับนำ business model ใหม่เช่นการทำ consulting service มาใช้

อีกทั้งยังคงเดินหน้าเข้ารวมประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนตามแผนนโยบายของภาครัฐ จำนวน 6 โครงการ กำลังการผลิตแห่งละ 3 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิตทั้งสิ้น 18 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าจะได้รับการคัดเลือก เนื่องจากมีความพร้อมด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ   ในธุรกิจพลังงานจากก๊าซชีวภาพมากว่า 10 ปี และยังมีโรงไฟฟ้าต้นแบบอยู่ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์

จากแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ข้างต้น เชื่อว่าจะส่งผลให้บริษัทฯ การเติบโตของรายได้ในปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบจากปีก่อน พร้อมทั้งตั้งเป้า EBITDA ไม่ต่ำกว่า 20% ของยอดขาย ตามการขยายตัวของภาคเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัวและการบริโภคสินค้าและบริการซึ่งกลับมามีแนวโน้มดีขึ้น จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วโลก

ขณะที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2564 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ จำนวน 334.86 ล้านบาท และมีผลกำไร 77.08 ล้านบาท ลดลง 26.52% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีผลกำไร 104.89 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA ไตรมาส 1/2564 อยู่ที่ 119.81 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักๆการปรับตัวลดลงของผลการดำเนินงานมาจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทำให้ธุรกิจเทรดดิ้งยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่

www.mitihoon.com