สัปดาห์นี้คาดจะผันผวนน้อยลง โฟกัสไปที่การปรับประมาณการฯ

220

ภาพรวมดัชนี SET index สัปดาห์ที่ผ่านมา ผันผวนกว่าคาด โดยมี Sentiment ลบจากเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่เร่งตัวขึ้นอีกครั้ง ร่วมกับความกังวลเรื่องการเกิดภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดีช่วงท้ายสัปดาห์ รองประธานเฟด ย้ำเรื่องของการคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ทำให้ปัจจัยที่ตลาดฯกังวลเรื่องของโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในอนาคตอันใกล้ลดลง สำหรับสัปดาห์นี้ แนะนำติดตาม ผลการประชุมนักวิเคราะห์หุ้นรายตัวที่จะทยอยเริ่มการประชุมหลังรายงานผลการดำเนินงาน 1Q64 ออกมาครบถ้วนแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ดีกว่าคาด ทำให้มีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะปรับประมาณการฯขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนเรื่องของ Valuation ชดเชยเรื่องขงออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับขึ้น อย่างไรก็ดีการปรับลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยของ  MSCI ในเดือนนี้ คาดจะถ่วงการปรับขึ้นของดัชนี ทำให้ยังคงเป็นการฟื้นตัวในกรอบที่จำกัด ประเมินแนวรับ 1,530 จุด แนวต้าน 1,560 – 1,570 จุด

ประเมินหุ้นที่มีผลการดำเนินงานเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกจะยัง Outperform ตลาดฯในระยะสั้น อาทิ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี (เลือก PTT, IRPC) กลุ่มส่งออก (EPG, SAT) กลุ่มขนส่ง (LEO, III) กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (TVO) เป็นต้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นกลุ่มที่สามารถป้องกันภาวะเงินเฟ้อได้ดี (Inflation hedging) นอกจากนี้หุ้น กลุ่มเช่าซื้อที่ยังไม่แพง และมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น อาทิ ECL, ASK มีโอกาสที่จะ Outperform ตลาดฯ เช่นกัน ขณะที่หุ้นกลุ่มที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศ หรือ Domestic play คาดว่าจะเริ่มมี Sentiment ที่ฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย. จากการเร่งปูพรมฉีดวัคซีน และการเตรียมความพร้อมเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวบางพื้นที่ใน 3Q64

 

โดยสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)

www.mitihoon.com