INET ชูศักยภาพผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร

222

มิติหุ้น –  บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย หรือ INET ชูศักยภาพผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการรับ Digital Economy และสนับสนุนภาคธุรกิจเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่การให้บริการรูปแบบดิจิทัลในช่วง COVID19 และหลังสถานการณ์โรคระบาด ประเมินแนวโน้มความต้องการใช้บริการระบบคลาวด์และศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าระดมทุนผ่านการจัดตั้งกองทรัสต์  เผยผลสำรวจธุรกิจให้บริการคลาวด์ในประเทศไทยจาก IDC Semiannual Public Cloud Services Tracker ปี 2020 INET ครองส่วนแบ่งตลาด 14.8% เป็นเบอร์ 1 ของผู้ประกอบการไทย  

นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจรที่มีประสบการณ์กว่า 26 ปี เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าภาครัฐและเอกชน ที่ต้องการนำเทคโนโลยีด้านไอซีทีเข้ามาเพิ่มความศักยภาพและขีดความสามารถการแข่งขันแก่องค์กร ด้วยการนำเสนอบริการที่หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่การเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ การให้บริการศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ (INETIDC) พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ และการนำเสนอบริการระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง โซลูชันส์ (Cloud Computing Solutions) จนปัจจุบันถือได้ว่าเป็นผู้นำด้านการให้บริการคลาวด์ เซอร์วิส ในประเทศไทย  

โดยผลสำรวจธุรกิจให้บริการคลาวด์ในประเทศไทยจาก IDC Semiannual Public Cloud Services Tracker ปี 2020 (ปี 2563INET มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ ในไทย (รวมผู้ประกอบการต่างชาติ) คิดเป็นสัดส่วน 14.8ของมูลค่าตลาดรวมกว่า 6,000 ล้านบาท (197.ล้านดอลลาร์สหรัฐ) รองจาก Amazon Web Services และ Microsoft นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในกลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์ที่เป็นผู้ประกอบการไทย  โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่าผู้ให้บริการที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ เกือบ 10ตอกย้ำศักยภาพผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของไทย  

ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสการขยายธุรกิจ จากความต้องการใช้บริการระบบคลาวด์และศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลต่างๆ ขององค์กรที่เพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาล และสนับสนุนภาคธุรกิจเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่การให้บริการรูปแบบดิจิทัลในช่วง COVID19 และหลังสถานการณ์โรคระบาด โดยมีปัจจัยมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีไอทีและเครือข่ายระบบอินเทอร์เน็ต  การปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีสื่อสารรองรับระบบ 5G การทำงานแบบ Work from Home หรือ Work from Anywhere รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ที่ส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐใช้งานระบบคลาวด์จากภาคเอกชนเพิ่มขึ้น  

ล่าสุดบริษัทฯ จึงวางแผนขยายการลงทุนศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ คาดว่าใช้งบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีศูนย์ INETIDC แห่ง ได้แก่ อาคารบางกอกไทย ทาวเวอร์ (INETIDC 1) อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ (INETIDC 2) และที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี (INETIDC 3) โดยจะใช้จุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีและนวัตกรรมไอที รวมถึงเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์รายแรกๆ ในประเทศไทยเพื่อขยายฐานลูกค้าในอนาคต  

 “INETIDC ทั้ง แห่งของเรา ถือเป็นศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ ที่มีความทันสมัยได้มาตรฐานระดับโลก โดยได้รับรางวัล Center Service Vendor of the Year 2013 จากบริษัท Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก พร้อมรับประกันคุณภาพด้วย Service Level Agreement (SLAUptime ตั้งแต่ระดับ 99.90% ถึง 99.99% และให้บริการตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 20000‑1:2011 (Cloud Service Management) ISO/IEC 27001:2013 และ CSA‑STAR Certification โดยมีเครือข่ายสำรองที่สามารถใช้เป็นศูนย์สำรองข้อมูลกรณีฉุกเฉิน Disaster Recovery (DR) Site นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบก่อสร้างภายใต้แนวคิด Clean, Green และ Energy Saving มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมทั้งได้รับการออกแบบให้เชื่อมต่อระบบระหว่าง ศูนย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้กรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน” นางมรกต กล่าว  

กรรมการผู้จัดการ INET กล่าวต่อว่า บริษัทฯ วางแผนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 ตั้งเป้าหมายรายได้ประมาณ 2,200 ล้านบาท เติบโต 20จากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 1,846.48 ล้านบาท ซึ่งมาจากการให้บริการ กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.บริการ Cloud Solutions ประกอบด้วย Infrastructure as a Service (IaaS) เป็นการให้บริการใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที Platform as a Service (PaaS) ที่ผู้ใช้บริการสามารถนำแอปพลิเคชันมาทำงานอยู่บนระบบดังกล่าวโดยไม่ต้องลงทุนด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ และ Software as a Service (SaaS) เป็นการให้บริการด้านแอปพลิเคชัเช่น Email on Cloud, ERP on Cloud 2.บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet access) สำหรับธุรกิจด้วยความเร็วที่หลากหลายครอบคลุมทุกจังหวัด และ 3.บริการ CoLocation โดยให้บริการศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต ซึ่งเป็นศูนย์กลางให้บริการสำหรับหน่วยงานหรือองค์กรธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการนำเสนอข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ต ทั้งที่เป็นเครือข่ายสาธารณะและเครือข่ายส่วนบุคคล   

ล่าสุด บริษัทฯ ได้เดินหน้าระดมทุนโดยจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INET Leasehold Real Estate Investment Trust (INETREIT) เพื่อเข้าลงทุนครั้งแรกในทรัพย์สินโครงการ INETIDC3 เฟส 1 มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 4,500 ล้านบาท ปัจจุบันได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบหน่วยทรัสต์ (ไฟลิ่ง) แล้ว

www.mitihonn.com