มิติหุ้น-ยังมีมุมมองที่เป็นบวกกับ SET INDEX ในสัปดาห์นี้เชื่อว่าเรื่องของ COVID-19 ในประเทศตลาดจะให้น้ำหนักกับ Vaccine มากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโดยข้อมูลล่าสุดจากการลงทะเบียนฉีด Vaccine ผ่าน Application ไทยร่วมใจอยู่ที่ 1.8 ล้านรายหรือคิดเป็นราว 32.8% ของประชากรทั้งหมดในกรุงเทพฯ และเชื่อว่าจำนวนการฉีดโดยรวมทั้งประเทศจากนี้มีแต่จะมากขึ้น ส่วนการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (Core PCE) ในวันศุกร์แม้จะออกมาสูงถึง 3.1%YoY และสูงกว่าตลาดคาดที่ 2.9%YoY เพิ่มความกังวลต่อนโยบายการเงินของ FED ที่อาจเข้มงวดกว่าเดิม อย่างไรก็ตามการตอบสนองของตลาดการเงินกลับเป็นไปในทิศทางเชิงบวก อาทิ 10Y US Bond Yield ปรับตัวลง , Dow Jones ปิดบวก 0.2% , US Breakeven 5Y (ความคาดหวังเงินเฟ้อ) ที่ปรับตัวลงเช่นกันบ่งชี้ว่าตลาดไม่ได้กังวลกับเงินเฟ้อที่ออกมาสูงและอาจสะท้อนถึงการประชุม FED ในกลางเดือน มิ.ย. ที่ตลาดเชื่อว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป
สำหรับปัจจัยสัปดาห์นี้ได้แก่ (1) ประชุม OPEC+ ในวันที่ 1 มิ.ย. แนะติดตามท่าทีของ OPEC+ หลังอุปสงค์รวมเริ่มฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ (2) ประชุม ครม. ในวันอังคารเบื้องต้นมีรายงานออกมาว่ามาตรการกระตุ้นจะเกี่ยวข้องกับการบริโภคเป็นหลักซึ่งน่าจะเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ร้านอาหาร (CENTEL M MINT) (3) ตัวเลขเศรษฐกิจภาคการผลิตสหรัฐ (PMI) ในวันอังคาร Bloomberg คาดที่ 61.2 และภาคแรงงานสหรัฐในวันศุกร์ Bloomberg ประเมินการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 6.7 แสนตำแหน่ง เชื่อว่าตลาดอยากเห็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงคาดหรือต่ำกว่าคาดเพื่อให้ FED ยังใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน คงคำแนะนำทยอยสะสม Domestic Play เช่นเดิมเพื่อรอการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง อาทิ ค้าปลีก (BJC ,CRC, CPALL, HMPRO) รถไฟฟ้า (BEM BTS) ศูนย์การค้า (CPN) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ส่วนหุ้นแนะนำสำหรับสัปดาห์ได้แก่ (BCH CBG CHG CK KCE MINT NER STEC)
CBG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 157 บาท) คาดผลประกอบการ 1Q21 เป็นจุดต่ำสุดของปีคาดผลประกอบการ 2Q21 ฟื้นตัว QoQ จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการเร่งสต๊อกสินค้าในตลาด CLMV, ยอดขายประเทศจีนที่เติบโตโดดเด่นระดับ triple digit growth, ผลิตภัณฑ์ใหม่ (Woody C+ Lock Vitamin C Drink Mixed Berry) และรายได้จากการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 ตัวใหม่
CK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 23.25 บาท) ล่าสุดทางบริษัทพึ่งได้งานอุโมงค์ท่อรระบายน้ำและงานที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ 2 โครงการรวมกัน 8.9 พันล้านบาท ขณะที่ในระยะข้างหน้ามีลุ้นงานประมูลอีกจาก (1) รถไฟฟ้าสายสีส้มมูลค่าราว 1.2 แสนล้านบาท (2) สีม่วงตอนใต้ 1 แสนล้านบาท (3) เขื่อนหลวงพระบาง 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากบริษัทสามารถคว้างานข้างต้นได้ทั้งหมดจะทำให้ Backlog กลับสู่ระดับแสนล้านได้อีกครั้ง
www.mitihoon.com