PRIME ปรับโครงสร้างมุ่งล้างขาดทุนสะสม กูรูมองบวกปรับราคาขึ้น 3.40 บาท

1881

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. ไพร์ม โรด เพาเวอร์ หรือ PRIME ได้มีการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ โดย บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ อัพเดทการปรับโครงสร้างของ PRIME เพื่อล้างขาดทุนสะสม จากมติการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 29/4/21 ที่ประชุมมีมติให้บริษัทดำเนินการปรับโครงสร้าง

โดย 1) ลดทุนจดทะเบียนจาก 2.55 หมื่นล้านบาท (PAR 1 บาท) ลงเหลือ 1.70 หมื่นล้านบาท (เท่าทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว) โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่าย ซึ่งได้ออกเพื่อรองรับ PRIME W1, W2, W5, W6

2) รวม PAR จาก 1 บาท เป็น 4 บาท และเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นของบริษัทด้วยอัตราการรวมหุ้น 4 หุ้นเป็น 1 หุ้น ส่งผลให้จำนวนหุ้นลดลงเหลือ 4.25 พันล้านหุ้น จากเดิม 1.70 หมื่นล้านหุ้น (มูลค่าทุนจดทะเบียนชำระแล้วยังคงเท่าเดิมที่ 1.70 หมื่นล้านบาท)

3) ลด PAR จาก 4 บาท เป็น 1 บาทอีกครั้ง และนำส่วนต่างไปลดขาดทุนสะสมในงบการเงินเฉพาะกิจการ ส่งผลให้ยังมีส่วนที่ขาดทุนสะสมเหลืออยู่ราว 374 ล้านบาท (มูลค่าทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วอยู่ที่ 4.25 พันล้านบาท จาก 1.70 หมื่นล้านบาท)

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกถึงความสามารถกลับมาจ่ายปันผลได้เร็วขึ้น ภายหลังบริษัท backdoor เข้ามาในปลายปี 2562 และเป็น Holding company นอกจากมีขาดทุนสะสมเป็นทุนเดิมติดงบเดี่ยวมา ที่ผ่านมายังไม่ให้บริษัทลูกจ่ายปันผลกลับขึ้นมาด้วย การลดทุนในครั้งนี้ควบคู่กับเงินสดที่อยู่ในบริษัทลูกและแนวโน้มกำไรที่จะเกิดขึ้นในปี 2564 สามารถทำให้การขาดทุนสะสมในงบเดี่ยวกลับมามีกำไรและเริ่มจ่ายปันผลได้

อย่างไรก็ตามขึ้นกับการตัดสินใจของบริษัทว่าจะดึงเงินกลับจากบริษัทลูกหรือไม่ และผลจากการปรับโครงสร้างที่ทำให้จำนวนหุ้นลดลง (ไม่กระทบมูลค่าบริษัทและปัจจัยพื้นฐาน) ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยมีการปรับราคาเป้าหมายเป็น 3.40 บาทต่อหุ้น อิง SOTP (เดิม 0.85 บาทต่อหุ้น ที่ราคาพาร์ 1 บาท และจำนวนหุ้น 1.7 หมื่นล้านหุ้น) เพื่อสะท้อนประเด็นดังกล่าว