MFC แนะลงทุนในกองทุนเปิด ‘M-MIDSMALL’ ขยายโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงถึง 37.88 % ชนะดัชนี SET TRI พร้อมเพิ่มชนิดหน่วยลงทุน M-MIDSMALL-SSF

67

 

มิติหุ้น-บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ผู้บริหารจัดการกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป หรือ M-MIDSMALL’ ที่เน้นการลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้การบริหารแบบ Active Management ทำให้ ‘M-MIDSMALL’  สร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น นับตั้งแต่ต้นปี 2564  (YTD 2564)  กองทุน M-MIDSMALL ทำผลตอบแทนอยู่ที่ +37.88%  ส่วนดัชนีเปรียบเทียบ SET TRI ผลตอบแทนอยู่ที่ 11.12% และ M-MIDSMALL ยังได้รับ Morningstar Rating Overall  ที่ 5 ดาว  (ข้อมูล ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2564)

คุณธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC เผยว่า ปัจจัยที่ทำให้กองทุน M-MIDSMALL น่าลงทุนในช่วงนี้ มาจากการที่ สศช. คาดการณ์ GDP ไทยปี 2564 เติบโตที่ 1.5 – 2.5% (โดยไตรมาส 1/2564 GDP ติดลบไป 2.6%) อย่างไรก็ตาม การกระจายวัคซีนในประเทศที่จะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เดือน มิ.ย. 64 เป็นต้นไป จะสามารถช่วยให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ในประเทศได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 2565 โดยการเร่งฉีดวัคซีนในประเทศนั้นจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยค่อย ๆ ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทาง MFC จึงมีมุมมองว่าตลาดหุ้นไทยในปี 2564 นี้จะปรับตัวขึ้นแบบ sideway up ตอบรับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศไทยและการเปิดประเทศทั่วโลก โดยการที่ภาวะตลาดรวมปรับตัวขึ้นนั้น จึงคาดการณ์ว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็กจะปรับตัวขึ้นได้ดีสอดคล้องเช่นกัน

โดยผู้จัดการกองทุน M-MIDSMALL มีกลยุทธ์การจัดพอร์ตโฟลิโอโดยเน้นหุ้นรายตัวที่มีพื้นฐานดี และมีปัจจัยสนับสนุน (catalyst) เฉพาะตัว ซึ่งแม้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในประเทศ โดยกำไรของหุ้นเหล่านี้ก็จะยังสามารถเติบโตได้ดี และราคาหุ้นมีความแข็งแกร่งแม้ในช่วงตลาดปรับฐาน ยกตัวอย่างเช่น หุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจส่งออกและการขนส่งระหว่างประเทศ ยอดการส่งออกสินค้าในไตรมาส 1/2564 ได้ฟื้นตัวกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส ที่ 5.3% แม้ว่าจะยังมีการระบาดในประเทศ รวมถึงหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการปลดล็อคพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูงตัวใหม่อย่างกัญชง และหุ้นกลุ่มการเงินที่ประกอบธุรกิจบริหารหนี้เสียและทวงหนี้ จากปริมาณหนี้เสียและหนี้พักชำระในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางธนาคารพาณิชย์จึงต้องทยอยขายหนี้ออกมาปริมาณมากซึ่งจะช่วยให้หุ้นในกลุ่มบริหารหนี้เสีย สามารถมีกำไรและเติบโตได้ดี

ด้วยประสบการณ์และกลยุทธ์ในการบริหารกองทุนที่แม่นยำของ MFC ผู้จัดการกองทุน เล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโต และความเหมาะสมของการเข้าลงทุน MFC ประกาศเพิ่มชนิดหน่วยลงทุนอีก 3 ชนิด คือ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไปที่ไม่รับเงินปันผล (M-MIDSMALL-A), ชนิดเพื่อการออม (M-MIDSMALL-SSF) และชนิดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (M-MIDSMALL-PVD)  เพื่อเพิ่มโอกาสและทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนที่สนใจการลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและเล็กในตลาดหุ้นไทยและ MAI ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีแนวโน้มการเติบโตสูงในระยะปานกลางและระยะยาว

โดย M-MIDSMALL มีหน่วยลงทุนชนิดใหม่ที่โดดเด่นถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการลดหย่อนภาษี โดยเพิ่มชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม หรือ “M-MIDSMALL SSF” เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก นอกจากลงทุนเพื่อคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว ยังได้รับผลประโยชน์ทางด้านภาษีด้วย (M-MIDSMALL-SSF เป็นชนิดหน่วยลงทุนที่เพิ่งเปิดเสนอขายใหม่ ดังนั้นผู้ลงทุนสามารถอ้างอิงข้อมูลของหน่วยลงทุนชิด M-MIDSMALL-D ได้)

ทั้งนี้บริษัทได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนชนิดผู้ลงทุนทั่วไปที่ไม่รับเงินปันผล (M-MIDSMALL-A), ชนิดเพื่อการออม (M-MIDSMALL-SSF) และชนิดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (M-MIDSMALL-PVD) ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564  สำหรับท่านผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุน M-MIDSMALL ก่อนหน้าการเพิ่มชนิดหน่วยลงทุน หน่วยลงทุนของท่านจะอยู่ในหน่วยลงทุนชนิดผู้ลงทุนทั่วไปที่รับเงินปันผล (M-MIDSMALL-D)

กองทุนเปิด M-MIDSMALL เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและเล็กคาดหวังผลตอบแทนที่ดี และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 1,000 บาท  ในการสั่งซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป โดยซื้อขายได้ทุกวันทำการ ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง หรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 สาขาแจ้งวัฒนะ โทร.0-2835-3055-57 สาขาปิ่นเกล้า โทร. 0-2014-3150-2 สาขาขอนแก่น โทร.043-204-014-16 สาขาเชียงใหม่ โทร. 0-5321-8480-82 สาขาระยอง โทร. 033-100-340 สาขาหาดใหญ่ โทร. 074-232-324 – 25 หรือที่ www.mfcfund.com

www.mitihoon.com