มิติหุ้น – นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวน เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ประกอบกับการติดตามความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนของรัฐบาล แม้ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ลดลงจากระดับ 3 พันคนต่อวันเหลือ 2 พันคนต่อวัน แต่ในกทม.ยังมีคลัสเตอร์เฝ้าระวังใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ต่างจังหวัดบางแห่งยังพบคลัสเตอร์ใหม่เช่นกัน
ส่วนปัจจัยต่างประเทศมีประเด็นเรื่องประธานาธิบดีโจ ไบเดนปฏิเสธข้อเสนอของพรรครีพับลิกัน (GOP) ที่จะเพิ่มงบประมาณรายจ่ายด้านโครงการสาธารณูปโภคอีกราว 5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากยอดเดิมที่เสนอไว้ก่อนหน้านี้ที่ราว 9.28 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่างบประมาณที่ประธานาธิบดีไบเดนต้องการ จึงคาดว่าดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,630 จุด
ทั้งนี้ยังคงต้องจับตาปัจจัยในรอบสัปดาห์นี้ อาทิ การประชุมครม.ตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/2564ของญี่ปุ่น-อียู และอียูเปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ส่วนสหรัฐเปิดเผยดุลการค้าเดือนเม.ย.และตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน อัตราหมุนเวียนแรงงาน รวมทั้งการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) ด้านจีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพฤษภาคม ส่วนสหรัฐ จะมีการรายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และการประชุมนโยบายการเงิน และสหรัฐ รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. รวมทั้งการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
สำหรับปัจจัยหนุนในประเทศด้านการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งในกทม.ซึ่งเริ่มให้บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลเริ่ม 7 มิ.ย. และในต่างจังหวัดเร่งระดมฉีดวัคซีนมากขึ้น และการเร่งดำเนินการในส่วนของโมเดล Phuket Sandbox ซึ่งจะดีเดย์ 1 ก.ค. เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว และกรณีที่สหรัฐแบ่งปันวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ตามแผนแบ่งปันวัคซีนรวมทั้งสิ้น 80 ล้านโดสให้ทั่วโลกภายในสิ้นเดือนมิ.ย. รวมทั้งนางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐเปิดเผยว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 4 ล้านล้านดอลลาร์ที่เสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นและอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถือเป็นปัจจัยที่ตลาดรับรู้ข่าวไปแล้ว
ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณดัชนี SET50 ในรอบครึ่งปีหลัง 2564 ได้แก่ STGT- IRPC -STA -KCE และหุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณ SET100 ได้แก่ STGT- RCL -TTA -DCC –PSL- PTL- SYNEX -SINGER โดยคาดตลาดจะประกาศรายชื่อในช่วงกลางเดือนมิ.ย. 64 และมีผลเริ่มใช้ 1 ก.ค. 64 นี้
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินกรอบทองคำในสัปดาห์นี้ว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 1,850-1,930 $/Oz โดยแนะนำให้รอซื้อเมื่ออ่อนตัวเนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นมากว่า 7.6% ในเดือนที่ผ่านมาทำให้เป็นเป้าหมายในการทำกำไร อย่างไรก็ตามในระยะยาวหากอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น เราคาดว่าทองคำจะกลับมา outperform สินทรัพย์อื่นๆ อีกครั้ง
www.mitihoon.com