ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า จากกรณีที่ ธปท.ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ SME และเกณฑ์การจ่ายเงินปันผล & ห้ามซื้อหุ้นคืน เมื่อ 10 มิ.ย.64 ธปท.ออกมาตรการให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ ขยายเวลาชำระคืนหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ SMEและมีเกณฑ์เรื่องการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล & ห้ามซื้อหุ้นคืน โดยสรุปได้ดังนี้
- ขยายมาตรการชะลอการชำระหนี้กลุ่มลูกค้า SME ที่จะครบกำหนด 30 มิ.ย.64 ไปถึงสิ้นปี 64 โดยใช้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการระบาดโควิดระลอกใหม่ โดยเป็น SME ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 100 ล้านบาท
- กำหนดกลไกจูงใจให้สถาบันการเงินปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบฯ โดยพิจารณาจาก 1)ความสามารถในการชำระหนี้, 2) ระยะเวลาจ่ายคืนหนี้ที่สอดคล้องกับประมาณการรายได้ที่ลูกหนี้จะได้รับในอนาคต
- ให้สถาบันการเงินมีอัตราการจ่ายปันผล (Dividend Payout ratio) ระหว่างกาลไม่เกินอัตราที่จ่ายในปี 63 และไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิ 1H64 และงดการซื้อหุ้นคืน ห้ามไถ่ถอนหรือซื้อคืนตราสารการเงินกองทุนก่อนครบกำหนด เว้นแต่เป็นการออกทดแทน
ธปท.อยู่ระหว่างพิจารณาความจำเป็นในการขยายระยะเวลาลดอัตราการนำส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ จาก 0.46% ต่อปีเป็น 0.23% ต่อปี ที่จะสิ้นสุดในสิ้นปี 64
ด้านฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า การขยายมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้SME ไปอีก 6 เดือน สิ้นสุดในสิ้นปี 64 จะช่วยประคับประคองธุรกิจลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดระบาดระลอกที่ 3 และถึงแม้ว่าจะทำให้รายได้และ NIM ของสถาบันการเงินอ่อนลง แต่ก็ช่วยให้NPL สถาบันการเงินไม่พุ่งขึ้นแรง และลดภาระในการตั้งสำรอง ECL ลง ทั้งนี้หลายธุรกิจและหลายบริษัทยังมีแนวโน้มระยะยาวดี เพียงแต่ในระยะสั้นถูกกระทบจากโควิดระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว
สำหรับการไม่ให้อัตราการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงกว่าอัตราที่จ่ายในปี 63 และไม่ให้เกิน 50% ของกำไรสุทธิในครึ่งแรกปี 64 นั้นคาดว่าจะกระทบกลุ่มแบงค์ไม่มาก เพราะแบงค์มีแนวโน้มจะจ่ายปันผลไม่สูงอยู่แล้ว สำหรับธนาคารที่จ่ายปันผลระหว่างกาล ประกอบด้วย BBL, KBANK, KKP, SCB ซึ่งในปี 63 มีอัตราการจ่ายปันผล 28%, 20%, 37%, 29% ของกำไรสุทธิ ส่วน KTB,TISCO และ TTB จ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง โดยมีอัตราการจ่ายเงินปันผล 23%, 83% และ 45%จะเห็นได้ว่ามีเพียง TISCO ที่จ่ายเงินปันผลมากกว่า 50% ของกำไรสุทธิในปี 63 สำหรับปี 64F เราประมาณการเงินปันผลไว้ที่ 6.30 บาท (เท่ากับปี 63) คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 79% ของกำไรสุทธิที่ประมาณการไว้ ซึ่งต่ำกว่าปีก่อน แต่สูงกว่า 50% ดังนั้นประมาณการเงินปันผลของ TISCO อาจมี Downside riskถ้าหากให้ TISCO จ่ายปันผล 50% ของกำไรสุทธิปี 64F พบว่าเงินปันผลจะอยู่ที่ประมาณ 4 บาท/หุ้น ณ ราคาหุ้นปัจจุบัน 89.25 บาท จะคิดเป็น Dividend yield 4.5% ซึ่งก็ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยที่ 3.5%
www.mitihoon.com