มิติหุ้น – บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) นำเสนอ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ซัสเทนเนเบิล อิควิตี้ โซลูชั่น ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (USUSRMF) และกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินโนเวชั่น ฟันด์ – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (UNIRMF) สอดรับกับกระแสการลงทุนในกลุ่มหุ้นที่มีความยั่งยืน ESG และหุ้นกลุ่มนวัตกรรม ที่เชื่อว่าจะสามารถสร้างโอกาสอัตราผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เหมาะกับเป็นกองทุนสำหรับวางแผนเพื่อการเกษียณ กองทุนดังกล่าวจะเปิดเสนอขายครั้งแรก ในวันที่ 14 -18 มิถุนายน 2564 นี้
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกมีแรงขับเคลื่อนจากธุรกิจใหม่ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจทั่วโลกต่างมีความพยายามในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เน้นการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ รวมไปถึงให้ความสำคัญของการลงทุนด้านความยั่งยืนของธุรกิจ (Environment, Social and Governance : ESG) เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ระบาดของโรค Covid-19 ที่ในปัจจุบันยังคงเกิดการระบาดรอบใหม่ในหลายๆ ประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม การระบาดดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากแต่ละประเทศมีมาตรการเร่งการฉีดวัคซีน และมีมาตรการทั้งการเงินและการคลังในการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเต็มที่”
บลจ. ยูโอบี มีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจโลกในระยะ 1 ปีข้างหน้า และจากการคาดการณ์เศรษฐกิจโลก GDP ในปี 2021 จะสามารถเติบโตได้ 6.0% เทียบกับคาดการณ์เดิมในเดือนมกราคม 2021 ที่ 5.5% (ที่มา IMF ณ เมษายน 2021) ขณะที่การระบาดของไวรัสรอบใหม่ในหลายประเทศไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากในปัจจุบันการฉีดวัคซีน Covid-19 เริ่มกระจายไปทั่วโลก ส่งผลให้อัตราการติดเชื้อในอนาคตมีแนวโน้มลดลงอย่างมาก เป็นปัจจัยหลักที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจประเทศต่างๆ สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะภาคการผลิตในกลุ่มประเทศส่วนใหญ่สามารถกลับมาขยายตัวได้แข็งแกร่ง แต่ภาคการบริการยังคงอ่อนแอ ดังนั้นการฉีดวัคซีนที่ทั่วถึงจะทำให้ภาคการบริการฟื้นตัวและหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว
ด้านตลาดทุนยังมีการสนับสนุนจากมาตรการทางการเงินและการคลังอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกลางส่วนใหญ่ทั่วโลกยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ส่วนธนาคารกลางขนาดใหญ่มีมาตรการซื้อสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ ยุโรป อังกฤษ ญี่ปุ่น ทำให้สภาพคล่องทรงตัวในระดับสูง มาตรการทางการคลังที่เข้ามาช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจาก Covid-19 การดูแลแรงงาน ลดภาระทางการเงินของภาคธุรกิจ เช่น สหรัฐฯมีมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ตกงาน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การลดภาษี ซึ่งส่งผลบวกต่อการกระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะฟื้นตัวดังกล่าว จะเอื้อความน่าสนใจของตลาดหุ้นทั่วโลก จึงเป็นโอกาสที่ดีการเข้าลงทุนในช่วงนี้ ทางบลจ.ยูโอบี จึงได้นำเสนอกองทุน USUSRMF และ UNIRMF ตอบโจทย์นักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีแนวคิด ESG และกลุ่มหุ้นนวัตกรรม โดยเราเชื่อว่าหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการออมเพื่อการเกษียณพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บลจ.ยูโอบี เล็งเห็นว่าทิศทางการลงทุนหุ้นกลุ่มที่มีแนวคิด ESG และกลุ่มหุ้นนวัตกรรม เริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการลงทุนมากขึ้น นักลงทุนมีความตื่นตัวและสนใจลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว ในปีที่ผ่านมาจึงได้มีการนำเสนอ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ซัสเทนเนเบิล อิควิตี้ โซลูชั่น ฟันด์ (USUS) และ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินโนเวชั่น ฟันด์ – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (UNI) ที่ได้เสนอขายไปตั้งแต่ปี 2561 โดยปัจจุบันทั้งสองกองทุนยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่มุ่งหวังโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการวางแผนเพื่อการเกษียณ บลจ.ยูโอบี จึงนำเสนอในรูปแบบของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับนักลงทุน
USUSRMF มีระดับความเสี่ยง 6 กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ Allianz Global Investors Fund – Allianz Global Sustainability Share Class PT (USD) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักจัดตั้งและบริหารจัดการโดย Allianz Global Investors GmbH ผู้นำระดับโลกในด้านการบริหารการลงทุนอย่างยั่งยืน เป็นบริษัทจัดการที่เป็นหนึ่งใน 50 องค์กรแรกที่ลงนามร่วมกับ UNPRI (เครือข่าย ESG ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ) ตั้งแต่ปี 2550 โดยกลยุทธ์หลักในการบริหารงานลงทุนคือการผสมผสานการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทกับการวิจัยปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ในการคัดเลือกบริษัทที่ลงทุน เน้นบริษัทที่มีคุณภาพและมีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวสูง รวมทั้งพิจารณาบริษัทที่มีการยึดมั่นในการปรับปรุงการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG ที่ดี โดยบริษัทที่จะผ่านเกณฑ์นั้นจะต้องมีคุณสมบัติที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองตามหลักการการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Sustainable and Responsible Investment Strategy (SRI Strategy)* กองทุนหลักสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนย้อนหลังสามปี ณ 30 เมษายน 2564 อยู่ที่ 13.94% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานกองทุนที่ 13.21%*
สำหรับ UNIRMF ระดับความเสี่ยง 6 กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จะเน้นลงทุนใน United Global Innovation Fund Class A USD Acc (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งและบริหารจัดการโดย UOB Asset Management Ltd มีกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการคิดค้นนวัตกรรมทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อรองรับแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงของโลก หุ้นทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการคิดค้นนวัตกรรม หรือได้รับประโยชน์จากนวัตกรรม และมีการประเมินความน่าสนใจของหุ้นด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในเชิงลึกควบคู่กับการพิจารณา 4 ปัจจัยในการดำเนินธุรกิจ คือ Trend, Innovation, Barrier to Entry และ Risks นอกจากนี้กองทุนสามารถปรับน้ำหนักการลงทุนตามภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ เพื่อมุ่งหวังโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) กองทุนหลักสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนย้อนหลังหนึ่งปี ณ 30 เมษายน 2564 อยู่ที่ 55.82% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานกองทุนที่ 45.75%*
www.mitihoon.com