GTG’ ระดมทุนฉลุย 250 ล้านบาท จับมือพันธมิตรใหม่ “SPI” และ “UPA” ลุยตลาดกัญชา-กัญชง

131

มิติหุ้น – บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด หรือ GTG ผู้ประกอบการต้นน้ำด้านธุรกิจกัญชา-กัญชง ผู้พัฒนาสายพันธุ์ ‘รักษา’ (Raksa) และผู้ผลิตสารสกัด CBD ที่ผ่านมาตรฐาน GMP ได้เปิดเผยข้อมูลล่าสุดจากการระดมทุนครั้งใหญ่ โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนที่มีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 250 ล้านบาท โดยได้ผู้ลงทุนยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI ที่ 70 ล้านบาท และ บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA ที่ 50 ล้านบาท ของมูลค่าบริษัทกว่า 2,000 ล้านบาทมาร่วมอยู่ด้วย

โดยคุณกฤษณ์ ธีรเกาศัลย์ ประธานกรรมการบริหาร เผยว่า “เม็ดเงินลงทุนนี้จะสามารถนำมาเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาด ณ ปัจจุบันได้ อีกทั้งในด้านอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอางเองล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีกฎหมายฉบับแรกที่มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2564 คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การใช้กัญชงในเครื่องสำอาง และในครั้งนี้มีความคืบหน้าในการจัดทำ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การใช้สารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออลจากกัญชาและกัญชงในเครื่องสำอาง และ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่อง ฉลากของเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารแคนนาบิไดออล (CBD) จากกัญชาและกัญชงในเครื่องสำอาง ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้สาร CBD ได้เต็มที่ 1% ของน้ำหนัก และมีสาร THC ต่ำกว่า 0.2%  จากกัญชาและกัญชงที่ปลูกในประเทศเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง และการกำหนดเงื่อนไขการแสดงฉลาก จึงทำให้ผู้ประกอบการรายต่างๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางหันมาให้ความสนใจกับ GTG และเป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น”

ปัจจุบันตลาดมีความเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ CBD ของ GTG มากขึ้นพร้อมทั้งยังมีความต้องการนำสารสกัดไปใช้กับผลิตภัณฑ์ในเครื่องสำอางเนื่องจากตัวสารสกัดของ GTG เองให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่าสารสกัดในท้องตลาดทั่วไปจากการสกัดออกมาในรูปแบบของ Full Spectrum นั่นเอง

ธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาและลงทุนในพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศไทย ที่รวมถึง กัญชงและกัญชานั้น กำลังเป็นที่นิยมและเป็นที่ยอมรับในสังคมไทยปัจจุบันเป็นอย่างมาก หลังจากภาครัฐปลดล๊อคกัญชาและกัญชง ออกจากการเป็นยาเสพติด แม้จะไม่ได้ปลดล๊อคครบทุกส่วน แต่ธุรกิจหลายธุรกิจก็เริ่มนำประโยชน์ของกัญชงและกัญชามาใช้ในการประกอบธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเพื่อบริโภค หรือ สินค้าเพื่ออุปโภค หรือนำไปใช้กับทางการแพทย์

“การร่วมพันธมิตรครั้งนี้ของทาง GTG และสองบริษัทยักษ์ใหญ่ อาจจะส่งผลให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และสินค้าอุปโภค บริโภค ที่มาจากกัญชงและกัญชา ความแปลกใหม่และประโยชน์ของสินค้านั้นอาจทำให้เกิดความหลากหลายในการเลือกใช้สินค้าของผู้บริโภคได้มากขึ้น”

www.mitihoon.com