วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

148

 

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

+  ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐฯ เพิ่มกำลังการผลิตสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 มิ.ย. 64 ปรับตัวลดลง 7.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล

+/- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0 – 0.25% พร้อมทั้งยังคงมาตรการในการซื้อพันธบัตรอย่างน้อย 1.2 แสนล้านต่อเดือน อย่างไรก็ตาม FED เริ่มส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่จะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไปจนถึงปี 2567

+  การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านยังคงไม่มีความคืบหน้า และมีแนวโน้มที่จะช้ากว่ากำหนดการณ์เดิมที่ตั้งไว้ว่าจะบรรลุข้อตกลงให้ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านในวันที่ 18 มิ.ย. ส่งผลให้อุปทานจากอิหร่านมีแนวโน้มกลับมาช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ราคาน้ำมันเบนซิน-ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้นจากอินเดีย

ราคาน้ำมันดีเซล-ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานในภูมิภาคที่มีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากการส่งออกของจีนปรับลดลงในเดือน มิ.ย. นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะจากอินเดีย

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ. ไทยออยล์