ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท หรือ ARROW ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายท่อที่ใช้ในระบบงานก่อสร้าง ท่อในอาคาร ประเภท ท่อร้อยสายในระบบไฟฟ้า ท่อ PPR ในระบบประปา และสุขาภิบาล โดย นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 นี้ คาดจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างยังชะลอตัว
ฝ่าแรงกดดันโครงการใหญ่ชะลอตัว
โดยในปี 2563 บริษัทมีรายได้ราว 1.3 พันล้านบาท ซึ่งแนวโน้มทั้งปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565 ภาพรวมอุตสาหกรรมการก่อสร้างยังไม่มีปัจจัยบวกที่จะผลักดันให้เร่งตัวขึ้นได้อย่างก้าวกระโดด บริษัทจึงพยายามประคอง “ธุรกิจท่อ” ของบริษัทที่อิงอยู่กับอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นหลัก ในขณะที่งานโครงการรัฐจะทยอยออกมาราว 1 ล้านล้านบาท ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะออกมา 1.2 ล้านล้านบาท จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ที่ทำให้หลายโครงการก่อสร้างใหม่ๆ ของภาครัฐถูกเลื่อนไป และโครงการของภาคเอกชนก็ยังเลื่อนไปด้วยเช่นกัน
เน้นคุมต้นทุนบริหารสต็อกเหล็ก
บริษัทจึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนวัตถุดิบ โดยเฉพาะต้นทุนราคาเหล็กที่ปรับเพิ่มขึ้นมาราว 120% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตท่อ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ทยอยปรับราคาขายเพิ่มขึ้นไปแล้ว 20-35% เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ1.1พันล.
ขณะเดียวกันยังมีการบริหารสต็อกวัตถุดิบล่วงหน้าเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ต้นทุนการผลิตขยับขึ้นไม่มากนัก และไม่กระทบกับความสามารถในการทำกำไร โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้ไม่ต่ำกว่า 15-20% อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทยังมีงานในมือ (Backlog) อยู่ราว 1.1 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังราว 70% โดยบริษัทจะพยายามหางานใหม่เข้ามาเพื่อรักษาระดับของ Backlog ให้อยู่ที่ราว 1-1.2 พันล้านบาท
www.mitihoon.com
