มิติหุ้น – นางสาวศิริลักษณ์ ตั้งวิบบูลย์พาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงินบริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้เพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ TFG เป็นระดับ “BBB” จากเดิมที่ระดับ “BBB-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทฯที่ได้รับการค้ำประกันเต็มจำนวนโดย Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ที่ระดับ “AAA” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ“คงที่”
ทั้งนี้ อันดับเครดิตหุ้นกู้ของ TFG สะท้อนถึงคุณภาพเครดิตของ CGIF ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “AAA/Stable” จากทริสเรทติ้ง ในฐานะผู้ค้ำประกันตราสารหนี้ของบริษัทฯ
การเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดของบริษัท ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของบริษัทฯ สะท้อนถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์ด้านผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ภายในประเทศ อีกทั้งยังสะท้อนถึงผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพของบริษัทอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของบริษัทฯก็มีข้อจำกัดจากความผันผวนของผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนความผันผวนของราคาอาหารสัตว์ และการก่อหนี้ พื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายลงทุนจำนวนมาก นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีความเสี่ยงเฉพาะของอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ไก่รายอื่น ๆ เช่น โรคระบาดในไก่ และผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย
ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2563 จากราคาสุกรและไก่เนื้อที่ปรับตัวสูงขึ้นอันเนื่องมาจากการขาดแคลนสุกรและการฟื้นตัวของอุปสงค์หลังจากที่ตลาดส่งออกในบางประเทศเริ่มกลับมาเปิดดำเนินการบ้างแล้วในช่วงครึ่งหลังของปี 2563
นอกจากนี้ การที่ต้นทุนอาหารสัตว์ปรับตัวลดลงยังส่งให้อัตรากำไรของบริษัทฯในปี 2563 ปรับตัวดีขึ้นอีกด้วย โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 14.1% ในปี 2563 จากระดับ 7.0%-12.6% ในระหว่างปี 2560–2562
โดยทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่ารายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทฯจะเติบโตที่ระดับ 6%-9% ต่อปีในระหว่างปี 2564–2566 จากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจปศุสัตว์และธุรกิจอื่นๆ นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทฯน่าจะยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 11%-13% ในช่วงปี 2564–2566 ด้วย
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน TFG กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10–15% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยธุรกิจสุกรจะขยายตัวจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น และราคาที่อยู่ในระดับที่ดี อีกทั้งราคาขายในเวียดนามยังคงยืนในระดับสูงเช่นกัน รวมทั้งการขยายฟาร์มระดับพ่อแม่พันธุ์สุกรทั้งในประเทศ และประเทศเวียดนาม เริ่มดำเนินไปแล้วบางส่วน อีกทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากการได้รับใบอนุญาตให้ส่งออกไปที่สหภาพยุโรป (EU) เพิ่มเติมสำหรับสินค้าปรุงสุก รวมไปถึงการขยายธุรกิจร้านสะดวกซื้อสำหรับเนื้อสดในรูปแบบตลาดสดภายใต้ชื่อร้าน Thai foods fresh market (ตลาดสดไทยฟู้ดส์) โดยปัจจุบันมี 11 สาขา ตั้งเป้าเพิ่มอีก 50 สาขา ในปี 2564 ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเนื้อสัตว์ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมดีขึ้น ผลักดันรายได้กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
www.mitihoon.com