กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 31.70-32.10 จับตาการจ้างงานสหรัฐฯ, วิกฤตโควิดในประเทศ

169

มิติหุ้น – กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.70-32.10 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 31.77 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 31.49-31.98 บาท/ดอลลาร์  โดยระหว่างสัปดาห์เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 13 เดือน เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักยกเว้นเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยตลาดเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงหลังคลายความวิตกลงบ้างเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเร่งคุมเข้มนโยบาย หลังประธานเฟดกล่าวว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อน่าจะลดลงได้เอง ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) คงนโยบายตามเดิม โดยไม่ได้ส่งสัญญาณเตรียมถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 4,524 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 1,368 ล้านบาท ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ตามคาด 

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะจับตาข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ เพื่อประเมินจังหวะเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับนโยบายกลับสู่ภาวะปกติต่อไป ขณะที่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย รวมถึงยอดผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นจากไวรัสกลายพันธุ์ในสหราชอาณาจักรอาจเพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในภาวะเช่นนี้ คาดว่าการปรับฐานของเงินดอลลาร์อาจถูกจำกัด ส่วนกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายอาจผันผวนสูงขึ้นในช่วงปิดงวดครึ่งปีเช่นกัน

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงดอกเบี้ยด้วยเสียงเอกฉันท์ โดยประเมินว่าการระบาดระลอกปัจจุบันของ COVID-19 ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าลงและไม่ทั่วถึงมากขึ้น และมีความเสี่ยงด้านต่ำอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยลดคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีปี 2564 และ 2565 เป็น 1.8% และ 3.9% ตามลำดับ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและอุปสงค์ในประเทศต่ำกว่าที่ประเมินไว้

โดยทางการลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2564 และ 2565 เป็น 700,000 คน และ 10 ล้านคน ตามลำดับ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐและการส่งออก โดย กนง.เพิ่มประมาณการส่งออกปีนี้เป็นขยายตัว 17.1% ส่วนบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะขาดดุล 1.5 พันล้านดอลลาร์ อนึ่ง กรุงศรียังคงมุมมองที่ว่ากนง.จะตรึงดอกเบี้ยไปตลอดปี 2565 ท่ามกลางการฟื้นตัวที่เปราะบางและไม่ทั่วถึง ส่วนในระยะนี้ Sentiment เงินบาทเผชิญแรงกดดันจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น การยกระดับมาตรการควบคุมโรค และการฉีดวัคซีนที่ชะลอลง

www.mitihoon.com