ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง หรือ SCGP แจ้งว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นเพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 85 ในใน Deltalab, S.L (หรือ “Deltalab”) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Supplies and Labware) ที่จดทะเบียนในประเทศสเปน โดย SCGP จะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้นประมาณไตรมาสที่ 3/64
การลงทุนครั้งนี้สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ในการดูแลรักษาสุขภาพและแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งส่งผลให้ความต้องการในการตรวจรวมถึงวินิจฉัยโรคสูงขึ้นทั่วโลก อุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพและการแพทย์ (Healthcare and Medical) จึงเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีขนาดตลาดประมาณ 26 พันล้านดอลลาร์ (8.1 แสนล้านบาท) ในยุโรป และ 48 พันล้านดอลลาร์ (1.5 ล้านล้านบาท) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
SCGP มุ่งมั่นให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรเป็นหลัก และเน้นขยายการลงทุนไปยังภาคธุรกิจที่ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคที่หลากหลาย การลงทุนใน Deltalab จึงเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งจะช่วยยกระดับฐานลูกค้าและผลิตภัณฑ์ของ SCGP รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการสู่ระดับโลก ตลอดจนการต่อยอดโอกาสในการบูรณาการองค์ความรู้ในการผลิตกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับแผนการขยายธุรกิจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและการแพทย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วประมาณร้อยละ 7-9 ต่อปี ในอนาคต นอกจากนี้ ธุรกรรมดังกล่าวจะช่วยเสริมการเติบโตแบบยั่งยืนและสร้างมูลค่าเพิ่มของ SCGP ต่อไปในระยะยาวด้วย
Deltalab เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูงในยุโรป โดยมีผลิตภัณฑ์กว่า 15,000 หน่วยและปริมาณการผลิต 250 ล้านชิ้นต่อปี สินค้าที่โดดเด่นของ Deltalab ประกอบด้วย ถ้วยเก็บตัวอย่างของเหลวจากร่างกายและหลอดสูญญากาศสำหรับถ่ายเทตัวอย่าง, หลอดเก็บตัวอย่างเลือด, หลอดขนาดเล็กสำหรับงานวิเคราะห์พันธุกรรม, หลอดปิเป็ตขนาดต่าง ๆ สำหรับถ่ายเท ตวงของเหลว, ตู้แช่แข็งเก็บวัคซีน และตัวอย่างทางพันธุกรรม เป็นต้น (สามารถดูรายการสินค้าได้จากเว็บไซต์ www.deltalab.es/en/) โดยมีการส่งออกสินค้าหลายรายการไปยัง 125 ประเทศทั่วโลก ในปี 63 Deltalab มีรายได้ 72.7 ล้านยูโร (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) และมีสินทรัพย์อยู่ที่ 54.3 ล้านยูโร (ประมาณ 2,100 ล้านบาท)
SCGP มุ่งมั่นที่จะตอบสนองกระแสความนิยมในการใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนมากขึ้น อีกทั้งยังนำเสนอสินค้าบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ ตลอดจนบริการบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายอื่น ๆ โดยมีฐานการผลิตรวมกว่า 40 แห่งในประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ทั้งนี้ SCGP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 63 และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 7.7 พันล้านดอลลาร์ (240,000 ล้านบาท)
สำหรับโครงการลงทุนดังกล่าวเป็นการได้มาซึ่งบริษัทย่อยที่ขนาดของสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงของการสรุปราคาหุ้นขั้นสุดท้าย จึงยังไม่สามารถคำนวณขนาดของรายการตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ได้ แต่จากประมาณการในเบื้องต้น ธุรกรรมนี้เมื่อรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้น ในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการเข้าทำรายการนี้เมื่อเทียบกับมูลค่าของสินทรัพย์รวมตามงบการเงินรวมของ SCGP สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. 64 ยังน้อยกว่าร้อยละ 15 ของสินทรัพย์รวม และไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน