จากภาพรวมตลาดระยะสั้นยังถูกกดดันจากโควิดระบาดระลอก 3 รุนแรงกว่าคาด ในบางวันจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันพุ่งขึ้นเป็น 4-5 พันคน ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสอ่อนลง อย่างไรก็ตาม บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เห็นว่าเป็นจังหวะในการซื้อดักหุ้นกลาง-เล็ก ที่คาดว่าจะมีผลประกอบการไตรมาส 2/64 เติบโตแข็งแกร่ง และแนวโน้มยังไปได้ดี โดยในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ให้คำแนะนำ เลือกซื้อหุ้นเล็ก โดยแนะนำ 3 หุ้น ได้แก่ NRF, NSL และ SONIC
NRF แนะนำ ซื้อ (TP 12 บาท, Upside 19%)
บริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรส อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรสสำหรับอาหารมังสวิรัติ อาหารโปรตีนจากพืช และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ โดยทำธุรกิจมาราว 30 ปี
เข้าซื้อ City Food เมื่อธ.ค.63 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่ม +45% เป็น 19,082 ตันต่อปี และลงทุนใน Prime Labs (ธุรกิจ E-commerce) ในต้นปี 64 และมีแผนลงทุนขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง
และจับมือกับพันธมิตรทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาและ Terpene ซึ่งส่วนนี้จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 เติบโตสูง YoY เนื่องจากการซื้อกิจการ ส่วน QoQ ขยายตัวได้จากไตรมาส 1 เป็น Low season ของธุรกิจ ประเมินกำไรสุทธิปี 64-65 โตแกร่ง 27% และ 50% ตามลำดับ ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 12 บาท
NSL : แนะนำ ซื้อ (TP 18.95 บาท, Upside 27%)
บริษัทดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าเบเกอรี่และอาหารรองท้อง แบรนด์ของ 7-11 รายได้ของบริษัทมีสัดส่วนรายได้มากกว่า 94% ที่มาจากการผลิตสินค้าให้กับ 7-11 เป็นหลัก และบริษัทมีข้อตกลงเรื่องคำรับรองการผลิตสินค้า (MOU) กับ CPALL
บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 64 ที่ 3,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.5% จากปีก่อน โดยเป้ารายได้ที่ 3,500 ถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้กว่า 19.5% จากปี 63 ที่มีรายได้ที่ 2,927 ล้านบาท
ทั้งนี้ ประเมินมูลค่าหุ้นโดยใช้ PE ปี 65 ที่ 20 เท่า ใกล้เคียงกับธุรกิจอาหารส่งผลให้ราคาพื้นฐานของบริษัทอยู่ที่ 18.95 บาท เริ่มต้นคำแนะนำหุ้น NSL เป็นหุ้น Explorer ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ”
ประมาณการกำไรสุทธิปี 64 โต 60% เป็น 242 ล้านบาท และขยายตัวต่อ 17% ในปี 65 เป็น 284 ล้านบาท
SONIC : แนะนำซื้อ (TP 5 บาท, Upside 18%)
บริษัทมีกำไรสุทธิ 1Q64 เท่ากับ 41 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด +206%YoY และ +44%QoQ …คิดเป็น 68% ของกำไรสุทธิปี 63
ปัจจัยหนุน คือ 1) รายได้เพิ่มขึ้น 456% เทียบจากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 33% เทียบจากไตรมาสก่อน เป็น 604 ล้านบาท หลักๆ มาจากอัตราค่าระวางเรือที่สูงขึ้น; GPM เพิ่มเป็น 18%, 2) ควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดี ใน 1/64 มีรายได้จากขนส่งทางเรือ 77% ของทั้งหมด ซึ่งรายได้ส่วนนี้เติบโต 135% จากปีก่อน และเติบโต 43% จากไตรมาสก่อน, รายได้จากขนส่งทางบก 18% ของทั้งหมด ก็เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน และรายได้จากขนส่งทางอากาศ 5% ของทั้งหมด เติบโต 67% จากปีก่อน และเติบโต 2% จากไตรมาสก่อน
ส่วนแนวโน้มยังไปได้ดี และคาดว่าปี 64 กำไรสุทธิจะเติบโตก้าวกระโดดเป็นเท่าตัว แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 5.00 บาท อิง P/E ปี 64F ที่ 22 เท่า
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้