มิติหุ้น – แนะนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังต่อการลงทุนมากขึ้นจากสถานการณ์ COVID-19 ภายในประเทศที่รุนแรง สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันเริ่มยกฐานขึ้นมาเป็น 5,000 – 6,000 จากก่อนหน้าที่ 2,000 – 3,000 ขณะที่หน่วยงานแพทย์ได้ระบุว่าตอนนี้สายพันธุ์หลักที่พบใน กทม. คือสายพันธุ์ DELTA ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กระจายตัวได้ไวกว่าสายพันธุ์ Alpha (อังกฤษ) ทั้งนี้การเร่งตัวของผู้ติดเชื้อต่อวันที่ระดับ 5,000 – 6,000 มีความน่ากังวลคือระบบสาธารณสุขจะรองรับไม่ไหวเนื่องจากปัจจุบันผู้ป่วยรักษาหายต่อวันจะอยู่ที่ 3,000 สวนทางกับผู้ติดเชื้อต่อวันที่ 5,000 – 6,000 ดังนั้นจะทำให้ทุกๆวันระบบสาธารณสุขจะมีผู้ป่วยเข้ารักษาเพิ่มขึ้นวันละ 2,000 – 3,000 ซึ่งหากสถานการณ์ยังดำเนินแบบนี้ต่อไปเชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลจะกระทำคือเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการควบคุมเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเผชิญในระยะถัดไปหากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลง ขณะเดียวกันหากรัฐบาลตัดสินใจเพิ่มความเข้มงวดจะยิ่งเป็นแรงกดดันต่อเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเราเชื่อว่าหลังจากเริ่มประกาศผลประกอบการ 2Q21 จะเริ่มเห็นนักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์เพื่อสะท้อนการระบาดรอบ 3 รวมถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังยืดเยื้อมองเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้น ส่วนการก่อสร้างที่นายกคลายล็อกให้กลับมาดำเนินการได้มองรับเหมาก่อสร้างรับผลบวก (CK STEC) เนื่องจากข้อกำหนดการคลายล็อกของนายกมีงานประเภทเดียวกับที่ CK STEC มี Backlog อยู่ ประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้เสี่ยงอ่อนตัวลงกรอบ 1540 – 1595
ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ (1) สถานการณ์ COVID-19 ในประเทศ สัญญาณที่เป็นบวกคือจำนวนผู้ติดเชื้อควรลงไปอยู่ระดับ 2,000 – 3,000 ราย (2) PMI ภาคบริการสหรัฐในวันอังคาร Bloomberg ประเมินที่ 63.9 หากดีกว่าคาดจะเป็นบวกในภาพรวม
กลยุทธ์การลงทุน แนะนักลงทุนเพิ่มการถือครองเงินสดมากขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ดูรุนแรงจนเสี่ยงจะกระทบกับระบบสาธารณสุขนำมาซึ่งการเข้มงวดของภาครัฐ ถือเป็นความเสี่ยงที่รออยู่ในช่วงถัดไป โดยการเลือกหุ้นช่วงนี้มองกลุ่มส่งออก (ASIAN CBG DELTA HANA KCE TU) ปิโตรเคมี (IVL PTTGC) ผลบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เติบโตดี รวมไปถึงกลุ่มโรงพยาบาล (BCH CHG) รับผลบวกจากสถานการณ์ COVID-19
ASIAN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 20 บาท) คาดกำไร 2Q21 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องในทุกธุรกิจอุปสงค์อาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารแช่แข็งดีต่อเนื่อง แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มเติบโต และคาดมีกำลังการผลิตเพิ่มอีกในช่วง 2H21-1Q22
BCH (ถือ / ราคาเป้าหมาย 21 บาท) เก็งกำไรระยะสั้นจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ยืดเยื้อจะเป็นบวกกับผลประกอบการบริษัทหนุนจากการรักษาและการตรวจหาเชื้อ และผลประกอบการจะดีต่อเนื่องใน 3Q21 ผิดจากก่อนหน้าที่ตลาดมองกันว่า 2Q21 จะเป็นจุดสูงสุด
www.mitihoon.com