KOOL เคาะราคาเป้าเร้าใจ1.60บ. ออเดอร์ต่างชาติโตสนั่น

474

ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า บมจ.มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ KOOL ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความเย็น ได้แก่ พัดลมไอเย็น พัดลมไอน้ำ และพัดลมอุตสาหกรรม โดยนายนพชัย วีระมาน ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังถือเป็นช่วงไฮซีซันของตลาดต่างประเทศ ทั้งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอีกหลายประเทศ ที่กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ทำให้มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความเย็นเพิ่มขึ้นอย่างมาก

โดยขณะนี้คำสั่่งซื้อผลิตภัณฑ์ทำความเย็นของ KOOL ไม่ว่าจะเป็นพัดลมไอเย็น และพัดลมไอน้ำมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ส่งผลถึงรายได้รวมในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ เร่งตัวขึ้นได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก และมั่นใจว่าจะสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ที่จะโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน

ทั้งนี้ นอกจากนี้ยอดขายจากผลิตภั้ณฑ์ทำความเย็นแล้ว บริษัทยังจะได้แรงหนุนสำคัญจาก “ธุรกิจสินเชื่อ” หลังจากการเข้าซื้อหุ้นสามัญ บมจ.แคปปิตอล ลิ้งค์ ลีสซิ่ง หรือ CLL จากบริษัท แคปปิตอล ลิ้งค์ โฮลดิ้ง จำกัด (CLH) จำนวน 10,576,900 หุ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการต่างๆ ของ ก.ล.ต. และคาดว่าจะเริ่มให้บริการด้านสินเชื่ออย่างเต็มรูปแบบได้ภายในช่วงไตรมาส 3 /64 นี้ ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ที่ดีให้กับบริษัท

โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้ปรับโมเดลธุรกิจเป็นแบบเช่าซื้อ เน้นการให้บริการเช่าซื้อแก่กลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งปรากฎว่า กระแสตอบรับดีมาก ทั้งลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาล , โรงงานอุตสาหกรรม และห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ที่เข้ามาเจรจาขอใช้บริการรูปแบบเช่าซื้อมากขึ้น ซึ่งธุรกิจนี้ถือเป็นธุรกิจที่ให้มาร์จิ้นสูง ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของ KOOL ปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก

ดังนั้นในเบื้องต้น บริษัทจึงตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และสนับสนุนให้สัดส่วนรายได้ Recurring income เพิ่มขึ้น ซึ่งตั้งเป้า 2-3 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วน Recurring income ไม่ต่ำกว่าเป็นอเป็น 50% ของรายได้รวม จากปัจจุบันไม่รายได้ในส่วนนี้

ด้านมุมมองของนักวิเคราะห์ ประเมินแนวโน้ม KOOL ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 64 รายได้จะเร่งตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่วนหนึ่งมาจากออเดอร์จากต่างประเทศที่มีเข้ามาอย่างหนาแน่น และจากการขยายไปสู่ ธุรกิจเช่าซ์้อ จากการร่วมทุนกับ กลุ่มบ.แคปปิตอล ลิ้งค์ ที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจในส่วนของการให้สินเชื่อเป็นหลัก จะทำให้ KOOL มีธุรกิจที่หลากหลายและมั่งคงมากขึ้น และคาดว่าจะหนุนให้ผลประกอบการในปี 64 พลิกเป็นกำไรที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 63 จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 1.60 บาท