ชี้เป้าหุ้นได้ดี-มีเสีย รับมือล็อกดาวน์(12/07/64)

363

 

มิติหุ้น – เปิดรายชื่อหุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ หลังรัฐกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ 14 วัน  กูรูชี้ “กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์” Outperform ตลาดมากสุด ส่วน “กลุ่มโรงแรม” กระทบหนัก คาดดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสฟื้นตัว

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า จากภาครัฐประกาศยกระดับมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เสี่ยงสูง 14 วัน ทั้ง กทม. และปริมณฑล (6 จังหวัด) โดย “แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์” ประเมินว่า คาดจะมีทั้งกลุ่มที่ได้รับประโยชน์และเสียประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว โดยกลุ่มที่ได้ประโยชน์ อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ กลุ่มผลิตอาหารสัตว์ และกลุ่มส่งออก ส่วนกลุ่มที่เสียประโยชน์ ประเมินว่าได้แก่ กลุ่มขนส่ง กลุ่มพลังงาน  กลุ่มโรงแรม-ร้านอาหาร กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มรับเหมาวางระบบไอซีที

 หุ้นได้-เสียประโยชน์

นักวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส ประเมิน กลุ่มที่ Outperform ที่สุดจากสถิติอดีต คือ “กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์” โดยปัจจุบันปัจจัยพื้นฐานดีทั้งในด้านกำไรที่คาดยังเติบโตต่อเนื่อง และได้ Sentiment เชิงบวกจากทิศทางเงินบาทอ่อนค่า แนะเก็งกำไร KCE และ HANA

ขณะที่ ฝ่ายวิจัย บล.ทิสโก้ ประเมินว่า หุ้นที่คาด Outperform ตลาดระยะสั้น จะเกี่ยวข้องกับหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการระบาด แนะนำ BCH, BDMS และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกรับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า แนะนำ CBG, KCE, TU, JWD

ด้าน บล.ไอร่า ประเมินหุ้นที่มีโอกาสได้รับผลกระทบจากความหวังเปิดเมืองช้าลง ได้แก่ หุ้น AOT, MINT, CENTEL, CENTEL และ CPALL  ส่วนทางด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)) ประเมินว่า หุ้นที่จะกระทบหากล็อกดาวน์ ได้แก่ หุ้น KBANK, ERW, CRC และ CPN

คาด SET มีโอกาสฟื้น

“นายวัชเรนทร์ จงยรรยง” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก มองว่าจากมาตรการควบคุมรอบใหม่ที่ออกมาคล้ายคลึงกับการระบาดรอบ 2 ที่จำกัดเป็นพื้นที่ ขณะที่ SET Index ที่ปรับตัวลงมา 2 วันก่อนหน้านี้ สะท้อนปัจจัยนี้ไปพอสมควรแล้ว คาดมีโอกาสฟื้นตัวช่วงสั้น และประเมินกรอบดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (12-16 ก.ค.) ไว้ที่ 1,520 -1,570 จุด

อย่างไรก็ดี แนะนำนักลงทุนเก็บเงินสดบางส่วนราว 20-30% สำหรับเตรียมไว้กลับมาลงทุนในช่วงภาวะที่จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อทยอยลดลง หรือกลับมาอยู่ในระดับต่ำกว่าผู้ที่รักษาหาย

https://lin.ee/cXAf0Dp