PTTGC โบรกแห่อัพเป้า ทุ่ม1.4 แสนล.เข้าลงทุน Allnex Holding

631

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) โดยฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า เบื้องต้นฝ่ายวิจัยได้มีการปรับเพิ่มประมาณการสะท้อนการเข้าลงทุนในบริษัท Allnex Holding GmbH  โดยอ้างอิงตัวเลขรายได้ EBITDA และกำไรสุทธิของบริษัท ในช่วงปี 2562-63 และค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 12 เดือน จากงวด 1Q64 รวมถึงการกู้ยืมเงินระยะสั้น อายุสัญญา 2 ปี จาก PTT 7.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งภายใต้ประมาณการใหม่ส่งผลให้กำไรของ PTTGC ในปี 2565 และ 2566 เพิ่มขึ้น 8.2% และ 11.7% จากประมาณการเดิม มาอยู่ที่ 2.3 และ 2.5 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ และภายใต้ประมาณการใหม่ มูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2564 (อิง DCF) อยู่ที่ 71 บาทต่อหุ้น จากเดิม 69 บาทต่อหุ้น

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาวสำหรับการเข้าลงทุนดังกล่าว ซึ่งเป็นการต่อยอดฐานกำไรในระยะยาวของ PTTGC ในผลิตภัณฑ์กลุ่ม specialty ที่มี margin สูง ลดความผันผวนจากผลิตภัณฑ์กลุ่ม commodity ที่ PTTGC มีอยู่ อย่างไรก็ตามราคาหุ้น PTTGC วานนี้ปรับฐานลงไปมากอาจเพราะกังวลเรื่องเพิ่มทุนเนื่องจากมูลค่าเงินลงทุนค่อนข้างสูง แต่ทางผู้บริหารได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่มีการเพิ่มทุนจากการลงทุนดีลนี้ จึงไม่มี dilution effect เกิดขึ้น  ซึ่งหากอิง FV ใหม่ หลังจากรวมดีลการลงทุนนครั้งนี้ที่ 71 บาทต่อหุ้น พบว่าให้ upside เกือบ 30% มองเป็นโอกาสทยอยสะสมลงทุนระยะยาว

ทุ่มเงิน 1.48 แสนลบ.เข้าลงทุน Allnex Holding

โดยรายละเอียดของการลงทุนมีดังนี้ – PTTGC เข้าซื้อหุ้นสามัญใน Allnex Holding GmbH สัดส่วน 100% มูลค่าราว 1.33 แสนล้านบาท และให้เงินกู้อีกราว 1.6 หมื่นล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวมราว 1.48 แสนล้านบาท โดยบริษัท Allnex Holding GmbH ถือเป็นบริษัทผู้ผลิต Coating Resins และ Crosslinkers ชั้นนําระดับโลก โดยมุ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Industrial Coating Resins เป็นหลัก มี portfolio ที่ diversified ครอบคลุมทุกตลาด และทั่วทุกภูมิภาคทั้ง EMEA, Americas และ APAC ด้วยกำลังการผลิต 1.25 ล้านตันต่อปี กระจายใน 14 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการเข้าทําธุรกรรมดังกล่าวถือเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการดําเนินธุรกิจของ PTTGC ที่มุ่งเน้นเข้าสู่ธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงด้วยการเพิ่มสัดส่วนกําไรจาก High Value Business (HVB) รวมถึงต้องการกระจายสาย portfolio ของ PTTGC ลงไปในกลุ่ม downstream มากขึ้น และมุ่งเน้นการลงทุนไปที่ operating asset ที่สามารถเข้าไปต่อยอดและสร้างกำไรกลับมาให้ PTTGC ได้ทันที

 

หากพิจารณาในส่วนของทิศทางกำไรของบริษัท Allnex Holding GmbH พบว่ามีรายได้  EBITDA และ กำไรสุทธิ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลังอยู่ราว 7.1 หมื่นล้านบาท 1.2 หมื่นล้านบาท และ 3.3 พันล้านบาท ตามลำดับ โดยมีค่า EV/EBITDA อยู่ที่ 9.8 เท่า ซึ่งถืออยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ยสำหรับการลงทุน

แหล่งเงินลงทุนแน่นปึ๊ก

อย่างไรก็ตาม สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนครั้งนี้ ผู้บริหารยืนยันจะไม่มีการเพิ่มทุน โดยแหล่งเงินทุนกว่า 1.48 แสนล้านบาท คาดจะมาจากเงินสดที่มีอยู่ในมือ ณ สิ้นงวด 1Q64 ราว 1.0 แสนล้านบาท เงินจากการขายหุ้น GPSC ในช่วงก่อนหน้าราว 2.5 หมื่นล้านบาท และเงินสดหมุนเวียนที่คาดจะเพิ่มขึ้นหลังจากมีการปรับเงินทุนหมุนเวียนกับ PTT ในส่วนของการซื้อขายน้ำมันดิบอีกราว 3.0 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดจะเพียงพอสำหรับดีลนี้โดยไม่ต้องเพิ่มทุน

ทั้งนี้สำหรับการแจ้งตลท.สำหรับเงินกู้ยืมจาก PTT ที่ 7.4 หมื่นล้านบาท สัญญาอายุ 2 ปี นั้น ถือเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อบริหารสภาพคล่องซึ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้น เพราะจะมีหุ้นกู้ที่จะถึงกำหนดชำระในปีนี้และปีหน้ารวมราว 5.0 หมื่นล้านบาท หากมีการปรับโครงสร้างเรียบร้อยก็จะทยอยชำระคืน PTT ซึ่งหากมาพิจารณา Net Debt to Equity ของ PTTGC ในปัจจุบันพบว่าอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.3 เท่า  และภายหลังจากกู้ยืม PTT จะเพิ่มไปอยู่ราว 0.6 เท่า ไม่ได้มีปัญหาในส่วนของฐานะการเงินแต่อย่างใด

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp