ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น”รายงานว่า บมจ.สยามแม็คโคร หรือ MAKRO โดย “นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโครสายงาน Group Shared Service เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/64 เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนใน “โครงการศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่” ในอ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทดแทนศูนย์กระจายสินค้า 2 แห่งในปัจจุบันที่ใกล้จะครบกําหนดอายุสัญญาเช่า
โดยการลงทุนดังกล่าวประกอบด้วย 1.การเช่าที่ดินและคลังสินค้าจากบุคคลภายนอกระยะเวลาการเช่ารวมทั้งสิ้น 28 ปี โดยมีค่าเช่าและค่าบริการตลอดอายุสัญญาเป็นจํานวนเงินรวม 6,481 ล้านบาท และ 2.การลงทุนในงานระบบการจัดเก็บสินค้า เบิกสินค้าและกระจายสินค้าอัตโนมัติ พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ เป็นจํานวนเงินรวม 1,946 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 8,427 ล้านบาท
รายการดังกล่าวถือเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีมูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนคิดเป็น 11.2% ของมูลค่าสินทรัพย์รวม ตามงบการเงินรวมของบริษัท สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.64 เมื่อคํานวณรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาที่มีมูลค่าคิดเป็น 8% ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัท ทําให้มีขนาดรายการรวมทั้งสิ้นคิดเป็น 19.2% ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัท
ดังนั้นจึงทําให้รายการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ รายการประเภทที่ 2 ตามประกาศคณะกรรมการกํากับตลาดทุน ที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทํารายการที่มีนัยสําคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) บริษัทจึงมีหน้าที่ต้องจัดทํารายงานและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทํารายการดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและจัดส่งหนังสือเวียนแจ้งให้ผู้ถือหุ้นของบริษัททราบภายใน 21วันนับแต่วันที่เปิดเผยรายการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ด้าน “บล.โนมูระ พัฒนสิน” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัย แนะนำ “ซื้อ” MAKRO คาดทิศทางธุรกิจช่วงครึ่งหลังปี 64 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยเน้นโตจากรายได้เป็นหลัก จึงคงคาดยอดขายและกำไรสุทธิทั้งปี 64 โตใกล้เคียงกัน 6% ,7% ตามลำดับ ฝ่ายวิจัยชอบ MAKRO เพราะถือเป็นผู้ประกอบการมีการปรับตัวได้ไว ทำให้ที่ผ่านมา MAKRO จึงดูเป็นรายเดียวในฝั่งผู้ขายสินค้าในชีวิตประจำวัน (staple) ที่รายได้และกำไรสุทธิไตรมาส 1/64 กลับมาโตกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด (1Q19) แล้ว ประกอบกับ valuation ยังค่อนข้างถูกซื้อขาย PER ปี 22F ที่ 23xถูกกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต (29-30x) และกลุ่มค้าปลีก (26-27x) จึงแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 48 บาท
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้