มิติหุ้น-AMC ปักธงปี 64 ผลงานทำนิวไฮ กวาดรายได้พุ่ง 40% แตะ6-7 พันล้านบาท โกยส่วนแบ่งกำไร ‘ไพร์ม สตีล มิลล์’เข้าพอร์ตเพียบ จับตาผลงานไตรมาส 3/64 แรงเกินพิกัด ขานรับราคาเหล็กทะยานไม่หยุด แถมออเดอร์เหล็กล่วงหน้าล้นทะลัก ทุ่มงบก้อนโตผุดโปรเจ็กต์ใหม่ “โรงงานผลิตเหล็กเคลือบสังกะสี” ปั๊มรายได้เพิ่มอีก 4 พันล้านบาท/ปี
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอเซีย เมทัล หรือ AMC ทำธุรกิจผลิตท่อเหล็กและเป็นศูนย์บริการเหล็กครบวงจร หรือ ธุรกิจปลายน้ำ โดย “นายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์” กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ปี 64 บริษัทมั่นใจทั้งกำไรสุทธิและรายได้จะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) โดยรายได้เฉพาะกิจการตั้งเป้าไว้ที่ 6-7 พันล้านบาท เติบโต 40% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4.97 พันล้านบาท รวมถึง AMC จะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้นสัดส่วน 40% ใน “บ.ไพร์ม สตีล มิลล์” อีกด้วย ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดไว้ที่ 12%
“บ.ไพร์ม สตีล มิลล์ เป็นผู้ผลิตเหล็กม้วนดำ ซึ่งเป็น “ธุรกิจต้นน้ำ” ที่มีความต้องการสูงมากและที่ผ่านมามีการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการผลิต ทำให้คาดว่าในปี 64 รายได้จะเติบโตทำนิวไฮที่ 6-7 พันล้านบาท” นายชูศักดิ์ กล่าว
เหล็กพุ่งแรงหนุนQ2เด่น
ส่วนแนวโน้มผลงานไตรมาส 2/64 จะเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง ตามภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กที่ได้รับอานิสงส์ราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น และความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมียอดคำสั่งซื้อ(ออเดอร์)ล่วงหน้า เข้ามาเป็นจำนวนมาก และออเดอร์จะเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 3และ 4/64ด้วย ซึ่งบริษัทมีกำลังผลิตเพียงพอต่อความต้องการ โดยปัจจุบันมีกำลังผลิตติดตั้งที่ 4 แสนตัน/ปี ใช้กำลังผลิตไปเพียง 1.8-2 แสนตัน/ปีเท่านั้น
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ก็จะดีกว่าเดิมมาก เพราะผู้ผลิตรายใหญ่จากประเทศจีนที่มีมาร์เก็ตแชร์สูงถึง 60% ของกำลังผลิตทั่วโลกนั้น ได้ลดการผลิตลงและมีการเพิ่มภาษีการส่งออก ทำให้จะไม่เห็นการเข้ามาเหล็กจากประเทศจีนเข้ามาจำหน่ายในไทย โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ AMC แบ่งเป็นท่อเหล็กที่ 50-60% และ ศูนย์บริการเหล็กที่ 40-50% ของรายได้รวม
ทุ่มงบผุดโปรเจ็กต์ใหม่
ส่วนทิศทางธุรกิจปี 65-66 มั่นใจจะเติบโตก้าวกระโดด เพราะบริษัทอยู่ระหว่างเดินหน้าโปรเจ็กต์ใหญ่ “ธุรกิจกลางน้ำ” อย่าง “โรงงานผลิตเหล็กเคลือบสังกะสี” ภายใต้กำลังผลิต 1.5 หมื่นตัน/เดือน คาดใช้งบลงทุนค่อนข้างสูง ซึ่งประเมินว่าโรงงานจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/65 คาดสร้างรายได้เฉลี่ย 4 พันล้านบาท/ปี
โดยการลงทุนครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน เพราะบริษัทมีกำไรสะสมสูง 1.41 พันล้านบาท และมี D/E ต่ำเพียง 0.73 เท่า ซึ่งสถาบันการเงินพร้อมสนับสนุนวงเงินกู้ในการลงทุน โดยธุรกิจเหล็กเคลือบสังกะสี ปัจจุบันประเทศไทยมีความต้องการสูงถึง 8 หมื่นตัน/เดือน แต่โรงงานในไทยสามารถผลิตได้เพียง 1 หมื่นตัน/เดือนเท่านั้น ดังนั้นธุรกิจนี้จึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้