“โกลเบล็ก” มองหุ้นไทยไซต์เวย์ เก็งกำไรหุ้นอานิสงส์ค่าบาทอ่อน

130

 

มิติหุ้น บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Sideway หลังขาดปัจจัยใหม่หนุน บวกการแพร่ระบาดของโควิด-19 การฉีดวัคซีนป้องกัน และปัญหาการเมืองที่พร้อมปะทุ จึงให้กรอบดัชนี 1,510-1,570 จุด จึงแนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปี มาแตะ 33.39 บาทต่อบาร์เรล ชู AHSATNERSTAKCEHANASMT ASIAN

 นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคง Sideway โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด แนะจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิดซึ่งจะทยอยประกาศภายในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังมีความอ่อนไหวต่อประเด็นการรับวัคซีน

อีกทั้งทาง  ส.อ.ท. ได้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. ลดลงต่อเป็นเดือนที่ 4 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ยังไม่คลี่คลายและกระจายวงกว้างไปทั่วประเทศ การแพร่ระบาดในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งทำให้กำลังการผลิตลดลง เนื่องจากแรงงานต้องกักตัวทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งโรงงานบางแห่งต้องปิดชั่วคราวเพื่อทำความสะอาด และที่สำคัญแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยังได้รับวัคซีนในสัดส่วนที่น้อย

ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศก็ยังร้อนระอุ โดยจะมีการนัดชุมนุมทางการเมือง CAR PARK ยกระดับปราศรัยไล่นายกฯ พร้อมกันทั่วไทยวันที่ 15 ส.ค. นี้ จึงคาดการณ์กรอบเคลื่อนไหวของดัชนี 1,510-1,570 จุด

ส่วนปัจจัยต่างประเทศทางสหรัฐได้เปิดเผยว่าจำนวนติดเชื้อโควิด-19 เฉลี่ยในรอบ 7 วันในสหรัฐ เพิ่มสูงกว่า 100,000 รายต่อวัน เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ซึ่งส่วนใหญ่ตรวจพบในกลุ่มประชากรที่ยังไม่ฉีดวัคซีน

ทั้งนั้นยังคงต้องจับตาปัจจัยต่างๆทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทย อาทิ การรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนภายในวันที่ 16 สิงหาคมนี้เป็นวันสุดท้าย ด้านสภาพัฒน์ จะมีการแถลงตัวเลข GDP ในไตรมาส 2/2564  และทางศบค.จะทบทวนมาตรการล็อคดาวน์ 29 จังหวัดสีแดงเข้มรอบใหม่ในวันที่ 18 ส.ค. ส่วนสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วาระ2-3

ด้านปัจจัยต่างประเทศ อาทิ  ทางอียูจะมีการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจขั้นต้นเดือนส.ค. และสหรัฐรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อม อัตราเงินเฟ้อ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. รวมทั้งสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และในช่วงปลายเดือนสิงหาคมทางธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการจัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/64 ออกมาดี ได้แก่ WICE, AS, BCH, LANNA, SPALI, XO และCKP และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปี ส่งผลดีต่อสินค้าส่งออกของไทย ได้แก่ AH, SAT, NER, STA, KCE, HANA, SMTและ ASIAN

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย  บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำโลกในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มผันผวน จากความกังวลในการปรับลดวงเงิน QE ของเฟดในการประชุมเดือน ส.ค.-ก.ย.เป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำในระยะกลาง ฝ่ายวิจัยประเมินกรอบทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,700-1,760 $/Oz โดยแนะนำให้หาจังหวะ Short เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน จากความกังวลการปรับลดวงเงิน QE

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp