CPN เดินหน้าโครงการมิกซ์ยูส เตรียมเปิดศูนย์การค้า“เซ็นทรัล ศรีราชา” 27 ต.ค. 64 นี้ 

64

บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN ผู้นำเบอร์หนึ่งในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการ Restart Thailand ผลักดันเศรษฐกิจประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้สร้างประเทศ เพื่อเตรียมรองรับการฟื้นตัวช่วงปลายปี เดินหน้าเปิดโครงการมิกซ์ยูสตามแผน เตรียมเปิดให้บริการศูนย์การค้า “เซ็นทรัล ศรีราชา” ในวันที่ 27 ตุลาคม 2564 นี้

พร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายภาครัฐในการลดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และห่วงใยเคียงข้างคู่ค้าด้วยมาตรการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเซ็นทรัล ศรีราชา จะเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ครบครันและใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก บนพื้นที่ทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดใจกลางเมืองที่พร้อมรองรับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและการเป็นศูนย์กลางของ EEC และ New S Curve ในอนาคต พร้อมมอบประสบการณ์ล้ำอย่างลงตัวในบรรยากาศแบบ Semi-Outdoor ใกล้ชิดธรรมชาติ ใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้ศรีราชา

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนามุ่งมั่นช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เราไม่เคยหยุดการลงทุนพัฒนาโครงการแม้จะเผชิญวิกฤตใดๆ ก็ตาม โดยตลอด 40 ปีที่ผ่านมาการลงทุนขยายโครงการต่างๆ ของเราทั่วประเทศ ได้มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับท้องถิ่น เป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้าง Local Wealth ในทุกๆ จังหวัด ทั้งการเพิ่มการจ้างงาน ขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการ สร้างรายได้หมุนเวียนให้กับท้องถิ่น

รวมถึงการที่เรายึดหลัก Community at Heart เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกชุมชน และส่งเสริมกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์มาโดยตลอด สำหรับโครงการเซ็นทรัล ศรีราชา พร้อมเปิดในปลายปีนี้ โดยได้กำหนดวันเปิดอย่างเป็นทางการเป็นวันที่ 27 ตุลาคม 2564เนื่องจากบริษัทฯ มีความห่วงใยในสถานการณ์โควิดในขณะนี้ รวมถึงให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน และพันธมิตรร้านค้าทุกคนเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับชาวศรีราชาร่วมกัน โดยเซ็นทรัล ศรีราชา จะเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ครบครันและใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกที่ใส่ใจการใช้ชีวิตของผู้คน มีการออกแบบพื้นที่ให้ใกล้ชิดธรรชาติในรูปแบบ Semi-Outdoor และมุ่งมั่นในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนอีกด้วย”

“ในการขยายโครงการใหม่นี้ เราได้ช่วย Business Matching กับ Local Investorsเพื่อให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นและพันธมิตรคู่ค้าระดับประเทศได้มีโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน รวมถึงออก Flexible Leasing Programme เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการช่วยเหลือร้านค้าผู้เช่า ช่วยลดภาระ ผ่อนคลายความกังวลเรื่องผลประกอบการในช่วงเปิดร้านใหม่หรือในช่วงปีแรก น

อกจากนี้ ตลอดระยะเวลาที่เผชิญวิกฤตโควิดมา เราห่วงใยและใส่ใจธุรกิจของคู่ค้าเป็นสำคัญ โดยได้ดูแลคู่ค้า ผู้เช่าด้วยแผนช่วยเหลือรอบด้านแบบ 360 องศา ทั้งการลดและยกเว้นค่าเช่าตามสถานการณ์ การเข้าถึงสินเชื่อฟื้นฟู Multi-Bank 7 ธนาคารชั้นนำ อีกทั้งยังได้เตรียมแผนการตลาดด้วยแพลตฟอร์มใหม่ๆ รองรับอย่าง The 1 Biz ซึ่งเป็น Effective CRM เพิ่มยอดขายให้กับผู้เช่า และ Central Pattana Serve Application ให้ความช่วยเหลืออย่างครบวงจร” ดร. ณัฐกิตติ์กล่าว