มิติหุ้น – บมจ.เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ หรือ NSL ประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรก สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2564 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.9% รายได้รวม 1,563 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 9.8% และอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 6.9% เมื่อเทียบกับ 4.5% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ชี้ได้แรงหนุนจากเวิร์คฟอร์มโฮม แม้จะมีมาตรการล็อกดาวน์จากภาครัฐสกัดโควิด-19 เข้มงวดขึ้น โดยปัจจัยสำคัญมาจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ผ่านกลยุทธ์ที่ยั่งยืน
บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2564 รายได้รวมอยู่ที่ 799.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.4 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็น 30.4% โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิของไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 66.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเป็น 8.4% เมื่อเทียบกับ 4.9% ของช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า ปัจจัยการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ทำให้มีความต้องการสินค้าประเภทพร้อมรับประทานและสินค้าเดลิเวอรี่ ได้แก่ แซนวิชอบร้อนและสินค้าเบเกอรี่อื่นๆ เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้มียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นผ่านบริการเดลิเวอรี่ของร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ทำให้ผลประกอบการของครึ่งปีแรกของปี 2564 สิ้นสุดเดือนมิถุนายน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,563 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8%
นายอัครเดช เลี่ยมเจริญ ผู้อำนวยการด้านบัญชีและการเงิน บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัวสินค้าขนมปังจิ้งหรีดภายใต้แบรนด์ “Natural Bites” เป็นขนมปังโฮลเกรนผสมโปรตีนจิ้งหรีดและได้วางจำหน่ายในประเทศผ่านร้าน Healthiful ในเครือเซ็นทรัลรีเทล และมีการพัฒนาขนมประเภทสแน็ค เพื่อรองรับความต้องการสินค้าโปรตีนทางเลือกจากแมลงที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เริ่มวางแผนขยายตลาดส่งออกไปยัง เพื่อส่งออกไปยังโซนยุโรป อเมริกา และเอเชียอีกด้วย
สำหรับแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังปี 2564 นั้น คาดว่ากลุ่มสินค้า OBM (Original Brand Manufacturer) จะมีสินค้าออกวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “ปังไท” โดยจะมี 2 ผลิตภัณฑ์ คือ คริสปี้พาย และคริสปี้ ปังไท ขณะที่ไตรมาส 4 นั้นอาจจะมีสินค้าใหม่ในหมวดบิสกิตออกมาเพิ่มเติม ด้านธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสจะมีการเพิ่มไลน์สินค้าฝั่งค้าปลีกมากขึ้น อาทิ เนื้อวัวออสเตรเลียตัดแต่ง ปลาทะเลน้ำลึกจากนิวซีแลนด์ตัดแต่ง เป็นต้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น”
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่กว่า 1,250,000 ชิ้นต่อวัน ซึ่งถือว่าเพียงพอและสามารถรองรับการผลิตได้อีกถึง 50% อย่างไรก็ดี บริษัทได้วางแผนการสร้างอาคารโรงงานใหม่และเครื่องจักรสำหรับไลน์การผลิต Ready-to-Eat ในรูปแบบ Pouch ในส่วนของงบประมาณการสร้างอาคารรวมกับเครื่องจักรมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้