มิติหุ้น – HTECH โชว์ผลงานสุดร้อนแรง! เติบโตท่ามกลางวิกฤติโควิด ประกาศงบครึ่งปีแรก 64 โกยรายได้รวมกว่า 552 ล้านบาท เติบโตเกือบ 25% กำไร 76 ล้านบาท พุ่งแรงกว่า 288% จากการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ชูชิ้นส่วนกลุ่มไฮเอนด์เป็นดาวเด่น รับดีมานด์ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อยู่ในระดับสูง ขณะที่ กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ฟื้นตัว และรับรู้รายได้จากบริษัทย่อยในอเมริกาที่โตอย่างมีนัยสำคัญ มองครึ่งปีหลังแรงต่อ ที่ประชุมบอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นทันที 0.11 บาท/หุ้น สร้างความเชื่อมั่นเทรนด์ธุรกิจขาขึ้น แม้สถานการณ์โควิดกระทบธุรกิจของบริษัทย่อยในบางประเทศ แต่มั่นใจภาพรวมดูดี ปรับเป้ารายได้ทั้งปีเป็นเติบโตมากกว่า 10% จากเดิมตั้งเป้าโต 7% ควบคู่ความสามารถในการทำกำไรที่ดีต่อเนื่อง
นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH ผู้ประกอบธุรกิจผลิต รับจ้างผลิต และจำหน่ายเครื่องมือตัดเฉือนโลหะ (Cutting Tools) รายใหญ่ในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึง ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม – มิถุนายน 2564) บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 552.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.86 ล้านบาท หรือเติบโต 24.84% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 76.25 ล้านบาท เติบโต 288.24% และคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 13.81% เทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2563 อยู่ที่ 4.44% เนื่องจาก ในทุกกลุ่มธุรกิจมีอัตรากำไรเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะธุรกิจผลิตและจำหน่ายกลุ่ม Special Cutting Tools ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนระดับไฮเอนด์ สนับสนุนอัตรากำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรกของปี 2564 เทียบกับปี 2563 อยู่ที่ 20.15% และ 4.22% ตามลำดับ ผลจากการขยายธุรกิจ นำบริษัทย่อยในอเมริกาเสริมทัพความแข็งแกร่ง ควบคู่การคุมต้นทุนและค่าใช้จ่าย
โดยกลุ่มธุรกิจผลิตและจําหน่ายเครื่องมือที่ใช้ในการตัดโลหะที่มีลักษณะเฉพาะ (Special Cutting Tools) เติบโตสูงสุด มีรายได้ 298.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.39% ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 62.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 565.03% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเติบโตในทุกส่วนงาน ประกอบด้วยรายได้จากโรงงานของบริษัทใหญ่มีรายได้ 188.74 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ในประเทศซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก จากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายในช่วงไตรมาส 2 ก่อนที่จะมีการระบาดระลอกใหม่อีกครั้ง รวมทั้ง มีการย้ายฐานการผลิตกลับเข้ามาในประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทย่อยในประเทศ เวียดนาม Halcyon Technology Vietnam Co., Ltd. หรือ “HV” มีรายได้ 26.72 ล้านบาท ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดค่อนข้างจำกัด รวมทั้ง มีการขยายกำลังการผลิตเพื่อเพิ่มศักยภาพในการขยายงานอย่างต่อเนื่อง และบริษัทย่อยแห่งใหม่ Mastertech Diamond Products Company หรือ “MDP” ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีรายได้ 82.99 ล้านบาท เทียบกับปีก่อน 17.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 369.40% ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทําให้รายได้จากส่วนงานนี้ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน
ขณะที่ ธุรกิจนำเข้าและเครื่องมือที่ใช้ในการตัดโลหะ (Standard Cutting Tools) รายได้อยู่ที่ 219.16 ล้านบาท เติบโต 24.30% กำไรสุทธิทำได้ 20.40 ล้านบาท เติบโต 87.35% ประกอบด้วยรายได้จากบริษัทย่อยทั้งในและต่างประเทศ 7 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในลักษณะซื้อมาขายไปทั้งหมด รวมถึง บริษัทย่อยในประเทศฟิลิปปินส์ที่มีการปิดโรงงานในช่วงปลายปี 2563 และปรับโครงสร้างธุรกิจในลักษณะซื้อมาขายไปเต็มรูปแบบ โดยส่วนใหญ่ฐานลูกค้าอยู่ในกลุ่มยานยนต์ซึ่งฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปี
ส่วนธุรกิจผลิตและจําหน่ายอุปกรณ์และชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูปต่างๆ อยู่ที่ 18.28 ล้านบาท ลดลง 56.36% แต่กำไรสุทธิอยู่ที่ 4.47 ล้านบาท เติบโต 14.66% จากลูกค้าหลักในสหรัฐอเมริกากลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินได้รับผลกระทบจากโควิด และมีการลดกำลังการผลิตลง แต่มองว่า รายได้กลุ่มนี้จะฟื้นตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง
“แม้ในสถานการณ์โควิด HTECH เราไม่หยุดนิ่ง เดินหน้าเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสการเติบโต โดยกลุ่มลูกค้าหลักในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ฟื้นตัวเร็วกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งทั้งกลุ่มบริษัท มีสัดส่วนยอดขายประมาณ 40% ขณะที่ตลาดนี้ใหญ่มาก และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องสอดรับความต้องการใช้ Cloud Technology , IoT และ 5G รวมทั้ง แบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำมีการพัฒนาอุปกรณ์จัดเก็บที่มีความจุเพิ่มขึ้น หนุนดีมานด์ฮาร์ดดิสก์ยังคงเติบโต รองลงมา คือกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ที่ฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน และมีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 30% สนับสนุนผลงานในไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 288.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.62% กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 37.07 ล้านบาท เติบโตขึ้นมาก เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 0.85 ล้านบาท ส่งผลให้ผลงานในครึ่งปีแรกเติบโตอย่างน่าประทับใจ และคาดว่าครึ่งปีหลังจะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายพีท กล่าว
เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายปันผลระหว่างกาล จากงวดดำเนินงานครึ่งปีแรก เป็นเงินสด 0.11 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 สิงหาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผล 10 กันยายน 2564 ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้น บริษัทฯ จึงปรับเป้าหมายรายได้ปี 2564 จากช่วงต้นปีตั้งเป้าเติบโต 7% เป็นไม่น้อยกว่า 10% จากผลงานครึ่งปีแรกที่ออกมาค่อนข้างดี และคาดว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก แต่บริษัทฯ ยังคงต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดทั้งในประเทศไทย และบริษัทย่อยในต่างประเทศบางแห่ง เช่น มาเลเซีย และเวียดนาม ที่ยังมีการระบาดและล็อกดาวน์อยู่
นอกจากนี้ MDP บริษัทย่อยที่อเมริกา เป็นผู้ผลิต จัดจำหน่าย และให้บริการหลังการขายสินค้าประเภทเครื่องมือตัดเฉือนโลหะ ประเภท PCD และ PCBN โดยมีกลุ่มลูกค้าอยู่ในอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนเครื่องบิน อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ รวมไปถึงอุตสาหกรรมหนักในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศใกล้เคียง ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะโดดเด่นต่อเนื่อง จากการเดินหน้าทำงานได้ตามปกติแล้ว ไม่กระทบโควิด โดยในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางทีมผู้บริหารได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงาน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มเพื่อขยายกำลังการผลิต เป็นอีกปัจจัยโดดเด่นที่สนับสนุนการเติบโตของผลประกอบการในปีนี้ทั้งรายได้และกำไร
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้
https://lin.ee/cXAf0Dp