เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 64 ขยายตัวได้ดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ จากตัวเลขเศรษฐกิจไทย (GDP) ในไตรมาส 2/64 ที่ขยายตัว 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปัจจัยฐานต่ำ และการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นเป็นหลัก ส่งผลให้ในครึ่งปีแรกของปี 64 GDP ขยายตัวที่ 2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า GDP จะขยายตัวเพียง 0.4% เท่านั้น แสดงให้เห็นถึง “โมเมนตัมของเศรษฐกิจไทยที่ยังอ่อนแรงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19”
ภาคส่งออกขยายถึง25.4%
อย่างไรก็ดีการที่ตัวเลขการค้าในเดือน ก.ค. 64 ยังเป็นบวกและสร้างจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง โดยเติบโตขึ้นทั้งยอดส่งออกที่เติบโต 20.3% และนำเข้าเติบโต 45.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ,การค้ามีสภาวะเกินดุล 183 ล้านดอลลาร์ฯ
โดยการส่งออกเดือน ก.ค. 64 ที่ขยายตัวขึ้น 20.27% นั้น หากไม่รวมกลุ่มทองคำ/น้ำมัน/ยุทโธปกรณ์ การส่งออกจะขยายตัวขึ้นถึง 25.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เมื่อดูเป็นรายภูมิภาค พบว่าการส่งออกในเดือน ก.ค.64 ขยายตัวขึ้นในทุกตลาดหลัก ด้วยแรงหนุนจากตลาดสหรัฐฯ (+22.2% YoY), จีน (+41%) และญี่ปุ่น (+23.3%)
ปัจจัยข้างต้นทำให้ “บล.กสิกรไทย หรือ KS” ได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์การส่งออกและนำเข้าในปี 64 ขึ้นอีก 12.4% และ 23% จากปีก่อน จากความต้องการผลิตภัณฑ์ชิปที่แข็งแกร่ง / ปรับประมาณการอัตราแลกเปลี่ยนเป็น 32.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากสถานการณ์โควิด-19 ,การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และ ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดวงเงินอัดฉีดสภาพคล่อง ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทั่วทุกภาคส่วน
เก็บ4หุ้นเด่นธีมส่งออก
ดังนั้นจากภาพรวมข้างต้นส่งผลบวกดีต่อ “กลุ่มส่งออก” เพราะ 1.การส่งออกเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคาดการณ์ GDP ปี 64 และ 2.เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงไตรมาส 3/64 ดังนั้น KS จึงแนะนำเน้นลงทุนใน “กลุ่มส่งออก” โดย เน้น 4 หุ้นเด่น ได้แก่ KCE, HANA, EPG และ ASIAN
“บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ หรือ KCE” ผู้ส่งออกอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศอเมริกา ยุโรป เอเชีย ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 350 ราย ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์,อุปกรณ์เครือข่ายโทรคมนาคม,ภาคอุตสาหกรรม,เครื่องมือทางการแพทย์,อุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
ล่าสุดยอดส่งออกแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในเดือน ก.ค. 64 สูงขึ้นถึง 25.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 19.4% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลงานประการเติบโตต่อเนื่อง แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 100 บาท
“บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส หรือ HANA” ผู้ให้บริการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิกส์แบบครบวงจร โดยมีส่วนงานทางภูมิศาสตร์หลักในประเทศไทย ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา จีน และกัมพูชา ล่าสุดมียอดส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ ทรานซิสเตอร์ และหลอดไดโอด ในเดือน ก.ค. 64 เพิ่มขึ้น 0.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4.3% นับตั้งแต่ต้นปี แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 92บาท
“บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป หรือ EPG” ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์ยานยนต์ในเดือน ก.ค. 64 เพิ่มขึ้น 36.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 35.4%นับตั้งแต่ต้นปี แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 16 บาท
“บมจ.เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น หรือ ASIAN” ยอดส่งออกอาหารสัตว์ในเดือน ก.ค. 64 เพิ่มขึ้น 17.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 23.2%นับตั้งแต่ต้นปี แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 20 บาท
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้
