GULF ทำราคาNew High “BBL-ROJNA”รับผลดี

1050

ผู้สื่อจ่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) โดย บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า  GULFราคาหุ้น ทำ New High ที่ 41.75 บาท หลักทรัพย์ที่ถือหุ้น GULF ก็จะพลอยมีความมั่งคั่งเพิ่มไปด้วย แต่บจ.ที่ถือหุ้น GULF มีสัดส่วนการถือหุ้นไม่มาก ได้แก่ STEC 1.88%, BBL 1.27% และ ROJNA 0.94% แต่การที่ราคา หุ้น GULF ปรับขึ้นมาสูงมาก จึงทำให้บริษัทเหล่านี้มีกำไรที่ยังไม่รับรู้ (Unrealize Gain) ที่มากทีเดียว

หุ้น GULF มีการ IPO เมื่อปลายปี 2560 ที่ราคา IPO 45 บาท ต่อมาได้แตกพาร์จาก 5 บาท เป็น 1 บาท ราคาจึง
ปรับเป็น 9 บาท และมีการเพิ่มทุน 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ที่ราคา 30 บาท ดังนั้นจึงมีสมมุติฐานให้เฉลี่ยต้นทุนของ
3 หลักทรัพย์อยู่ที่ราว 10.91 บาท

จากการศึกษาพบว่า STEC จะมีกำไรที่ยังไม่รับรู้ (ก่อนภาษี) มากที่สุดคือ 6,785 ล้านบาท รองลงมาคือ BBL ที่
4,580 ล้านบาท และ ROJNA ที่ 3,393 ล้านบาท และเมื่อนำกำไรมาหาเป็นต่อหน่วยของแต่ละบริษัทจะเป็น 4.45,
2.40และ 1.68 บาท ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการวัดส่วนเพิ่มจากราคาหุ้นปัจจุบัน กลับพบว่า STEC ยังคงเป็นอันดับ 1 ที่ส่วนเพิ่ม 33%
รองลงมาคือ ROJNA ที่ส่วนเพิ่ม 25% และ BBL ที่ส่วนเพิ่ม 2% เพราะราคาหุ้น BBL ที่สูงวานนี้ปิดที่ 114 บาท
ขณะที่ STEC และ ROJNA เป็น 13.40และ 6.70 บาท ตามลำดับ

คาดว่าการให้คำจำกัดความเงินลงทุน ก็มีผลต่อการบันทึกกำไรต่างกัน เช่น STEC และ BBL จัดการลงทุนใน GULF
เป็นเงินลงทุนระยะยาว จึงไม่เคยบันทึกกำไรในงบกำไรขาดทุน แต่ ROJNA จัดให้เป็นสินทรัพย์ทางการเงินเผื่อขาย
จึงสะท้อนกำไร GULF ในงบกำไรขาดทุน ตลอดเวลา

จึงแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BBL (ราคาพื้นฐาน 193.00 บาท) และ ROJNA (ราคาพื้นฐาน 7.92 บาท)
สำหรับ STEC แนะนำ ถือ (ราคาพื้นฐาน 14.50 บาท)

🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้

https://lin.ee/cXAf0Dp