มิติหุ้น-บอร์ด “ชโย กรุ๊ป” ไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล เป็นหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 30 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็น 3.33% (1 หารด้วย 30) และจ่ายปันผลเป็นเงินสด เพื่อรองรับการจ่ายภาษีให้กับผู้ถือหุ้น รวมการจ่ายปันผลเป็นหุ้นและเงินสดคิดเป็นการจ่ายปันผลในอัตราการ 0.0185186 บาทต่อหุ้น รวมทั้งอนุมัติการเพิ่มวงเงินในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ และ/หรือตั๋วแลกเงินของบริษัท จากวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ในขณะใดขณะหนึ่ง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ เตรียมชงที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 อนุมัติในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ ด้าน “สุขสันต์ ยศะสินธุ์” แม่ทัพใหญ่ ประกาศขยายพอร์ตเพิ่ม โดยเพิ่มงบซื้อหนี้เพิ่มเป็น 2,500 ล้านบาท มั่นใจรายได้รวมในปี 2564 นี้ โตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 แน่นอน
นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า หรือขายของ ผ่าน Call Center เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์เข้าร่วมประชุม (Record Date) ในวันจันทร์ ที่ 13 กันยายน 2564 และอนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาล โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผลและเงินสด จากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร โดยจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 30 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 31,789,573 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 15,894,786.50 บาท หรือคิดเทียบเป็นมูลค่าเท่ากับอัตราการจ่ายปันผล 0.0166667 บาทต่อหุ้น ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นรายใดมีเศษของหุ้นจากการจัดสรรปันผลดังกล่าว บริษัทจะจ่ายปันผลเป็นเงินสดแทนในอัตรา 0.0166667 บาทต่อหุ้นสำหรับเศษดังกล่าว และให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0018519 บาท รวมเป็นเงินปันผลที่จ่ายเป็นหุ้นและเป็นเงินสดทั้งสิ้นหรือคิดเป็นจำนวนเงินประมาณไม่เกิน 17,660,953 บาท โดยบริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 (อย่างไรก็ตาม สิทธิในการรับปันผลดังกล่าวข้างต้นยังมีความไม่แน่นอน จนกว่าจะได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564)
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 25,799,247.50 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 599,985,518 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 625,784,765.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 51,598,495 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 31,789,573 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และรองรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W1 จำนวนไม่เกิน 12,818,221 หุ้น และรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W2 จำนวนไม่เกิน 6,990,701 หุ้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ตอบแทนของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W1 และใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W2 ไม่ให้ด้อยค่าไปกว่าเดิม
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังได้พิจารณาอนุมัติการเพิ่มวงเงินในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ และ/หรือตั๋วแลกเงินของบริษัท จากวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ในขณะใดขณะหนึ่ง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ใช้ในการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมาบริหาร ใช้เป็นเงินลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
ขณะที่แผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยในปีนี้ตั้งเป้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มเติมอีก 12,000 – 15,000 ล้านบาท ด้วยการตั้งงบลงทุนเพื่อซื้อหนี้ไว้ประมาณ 2,500 ล้านบาท ล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีพอร์ตหนี้ที่บริหารทั้งสิ้นประมาณ 65,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าหนี้ด้อยคุณภาพในระบบยังมีอยู่สูงเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีนัก ดังนั้นสถาบันการเงินจะทยอยขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะไตรมาส 4 ซึ่งเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ สถาบันการเงินจะนำ NPL ออกมาขาย เพื่อการบริหารจัดการตัวเลข NPL ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้