ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สากล เอนเนอยี หรือ SKE ประกอบธุรกิจสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน “นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา” กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 3/64 จะอยู่ในทิศทางที่ดี แม้จะอยู่ในภาวะวิกฤติ Covid-19 แต่ด้วยการที่บริษัทเน้นขยาย “ธุรกิจพลังงาน”มากขึ้น ทำให้ธุรกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น ล่าสุดสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นเป็น 50-55%,ธุรกิจ NGV ที่ 35% และธุรกิจบริหารจัดการขยะ RDF ที่ 10%
ปัจจุบันบริษัทมี “โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง หรือ MKP” ขนากกำลังผลิตไฟฟ้า 9.9 MW และมีสัญญาขายไฟ8 MW ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในอัตราเฉลี่ยที่ 4.62 บาทต่อหน่วย ภายใต้อายุสัญญาเป็นเวลา 20 ปี (COD ส.ค.62)รวมถึงเตรียมขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าพลังงานจากแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป)อีกด้วย
รับทรัพย์ N15
ไม่เพียงเท่านั้นจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ “ธุรกิจบริหารจัดการขยะ RDF” ของ“บ.เอ็น15 เทคโนโลยี หรือ N15” ที่เพิ่งซื้อกิจการเข้ามาเมื่อเดือน มิ.ย.64 ทำธุรกิจบริหารจัดการของเสียหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย โดยการคัดแยกและแปรรูปขยะ เป็นเชื้อเพลิงทดแทน (Refuse Derived Fuel: RDF) ราว 90,000 ตันต่อปี คาดจะสนับสนุนให้ฐานรายได้เติบโตอย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างทำดีล M&A ธุรกิจขยะเพิ่มเติมเพื่อป้อนโรงไฟฟ้าขยะที่เพิ่มขึ้น
ลุ้นโรงไฟฟ้าชุมชน15MW
ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทได้ยื่นโรงไฟฟ้าชุมชนของภาครัฐ และได้ผ่านขั้นตอนคัดเลือกคุณสมบัติและเทคนิคแล้ว 15 MW คาดว่าภาครัฐจะประกาศภายในเดือน ต.ค.64 นี้ ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจ และมีความพร้อมมากในการลงทุน เพื่อบรรลุเป้าหมายมีโรงไฟฟ้าภายการบริหาร 30 MW
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดแผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” การเข้าลงทุนในหุ้น SKE จากการขยายไลน์ธุรกิจสู่พลังงานทดแทนมากขึ้น ทำให้มีรายได้มั่นคง รวมถึงมีลุ้นผนึกพันธมิตรเพื่อร่วมทุนขยายธุรกิจ และรับรู้รายได้ N15 โดยทั้งปี 64 คาดรายได้จะเติบโตทำนิวไฮไม่ต่ำกว่า 15% แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 1.50 บาท
🚩🚩ห้อง Official Line ห้องไลน์ฟรี มิติหุ้น ทันทุกสถานการณ์การลงทุน หุ้นเด่น หุ้นเด็ดตลอดวัน กับห้องไลน์ @mitihoonwealth ห้องไลน์ที่นักลงทุนเข้าเป็นสมาชิกฟรี ไม่มีเงื่อนไข เพียงคลิกลิงค์นี้ก็เข้าได้เลย และสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้